พิษณุโลก ตำรวจทางหลวง ปฏิบัติการสุดระทึก ไล่ล่าโจรขโมยรถ ทำทีเป็นลูกค้า จะซื้อปาเจโร่เต็นท์รถอุตรดิตถ์ พอลองรถเสร็จ กลับเหยียบหนี แถมเชิดค่าน้ำมันปั๊มซ้ำ ตร.นำกำลังเข้าสกัด กลับฮึดสู้คว้ามีดหวังแทงตำรวจ บาดเจ็บไป 2 นาย ยื้อแย่งปืน M16 หวังควบฉลามบก เผ่นหนีสุดท้ายไม่รอด โดนข้อหาหนัก พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม 2567 ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งมีการสกัดจับรถยนต์ต้องสงสัยถูกขโมยจากเต็นท์รถจังหวัดอุตรดิตถ์ และมีการต่อสู้ขัดขวางทำร้ายร่างกายตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย บริเวณแยกสกัดน้ำมัน ถนนสายเลี่ยงเมือง ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิประสาทบุญสถาน พิษณุโลก

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น ปาเจโร สีขาว หมายทะเบียน กท 8437 อุตรดิตถ์ สภาพหน้ารถพังจอดบนเกาะกลางถนน และพบ ด.ต.ประทีป มีอุดร ได้รับบาดเจ็บ ถูกอาวุธมีดแทงบริเวณท้องด้านซ้าย และ จ.ส.ต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ ได้รับบาดเจ็บขาด้านซ้ายถูกผู้ต้องหาขับรถชน และถูกมีดแทงบริเวณท้องด้านขวา ทั้ง 2 นาย สังกัด ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล. (พิษณุโลก)

และผู้ต้องหาคือ นายกรกฎ สุริยา อายุ 31 ปี ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลถูกอาวุธปืนที่บริเวณมือขวา 1 นัด และหว่างขาด้านซ้าย 1 นัด ถูกล็อกกุญแจมือนอนอยู่กับพื้นข้างรถตำรวจทางหลวง

ด.ต.ประทีป มีอุดร กล่าวว่า ตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ยินทางวิทยุสื่อสาร ว่ามีเหตุขโมยรถยนต์จากเต็นท์รถ จากจังหวัดอุตรดิตถ์ มุ่งหน้ามาจังหวัดพิษณุโลก และได้แหกด่านบริเวณตำบลบ้านป่า ตนเองจึงนำกำลังพร้อมรถยนต์ทางหลวงอีก 2 คัน เพื่อสกัดรถยนต์คันดังกล่าวบริเวณสี่แยกสกัดน้ำมัน เมื่อรถยนต์ มิตซูบิชิ คันดังกล่าว มาถึงบริเวณสี่แยก ได้หักรถยนต์วิ่งเข้าชน จ.ส.ต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ บริเวณขาด้านซ้ายอย่างจัง และรถก็ได้เกยขึ้นบนฟุตบาทกลางถนนชนเสาไฟฟ้าอย่างจัง ทำให้รถเกิดความเสียหายขับต่อไม่ได้

ผู้ต้องหาได้ลงมาจากรถ ทราบชื่อต่อมา คือ นายกรกฎ สุริยา อายุ 31 ปี วิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมนำมีดพกแทง จ.ส.ต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ บริเวณหน้าท้องด้านขวา 1 ครั้ง ขณะเข้าจับกุม และได้วิ่งขึ้นบนรถตาโล่ตำรวจทางหลวง เพื่อจะชิงรถตำรวจทางหลวงคันดังกล่าวหลบหนีต่อ แต่ ด.ต.ประทีป มีอุดร เปิดประตูด้านข้างคนขับ และได้มีการต่อสู้ภายในรถยนต์ตำรวจทางหลวง และ นายกรกฎ (ผู้ต้องหา) ได้นำมีดพกแทง ด.ต.ประทีป บริเวณหน้าท้องด้านซ้าย 1 ครั้ง และได้มีการแย่งอาวุธปืน M 16 ของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในรถยนต์ และ ด.ต.ประทีป จึงใช้อาวุธปืน M 16 กระบอกดังกล่าว ยิงเพื่อป้องกันตัวเอง ถูกมือด้านขวาของผู้ต้องหา และหว่างขาด้านซ้ายของผู้ต้องหา จำนวน 2 นัด ทำให้ผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายกรกฎ สุริยา อายุ 31 ปี (ผู้ต้องหา) ให้การอ้างว่า ตนเองเช่ารถจากจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อกลับบ้านที่จังหวัดชลบุรี แต่ไม่รู้เพราะเหตุอะไรเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัด และขับรถไล่ตามมาจนถึงที่เกิดเหตุ และก็ถูกจับกุม ตนเองได้ทำหนังสือเช่ารถคันดังกล่าวถูกต้องแล้ว

จากการสอบถาม นายพชรพงษ์ ณรงค์ชัย อายุ 46 ปี เจ้าของรถที่ตามมาดูที่เกิดเหตุให้การกับตำรวจว่า รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว ทะเบียน กท 8437 อุตรดิตถ์ เป็นของรุ่นน้อง ชื่อเอ็ม อายุ 30 ปี ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวมาฝากเต็นท์ขาย และมีคนร้ายทำทีมาขอดูและขอลองขับขี่เพื่อตัดสินใจ โดยนั่งกับพนักงานขายรถไปกัน 2 คน เมื่อลองรถยนต์เสร็จจนเป็นที่พอใจแล้วจึงจะทำสัญญาซื้อขาย พอกลับมาถึงเต็นท์แล้วพนักงานได้ลงจากรถ แต่คนร้ายกับเร่งเครื่องขับหลบหนีไปในทันที และไปแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง แต่ก็ไม่จ่ายเงินอีก ก่อนที่ทางเต็นท์จะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และวิทยุสกัดจับ กระทั่งหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ก่อนจะจนมุมได้ทำร้ายตำรวจบาดเจ็บและถูกยิงดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้แจ้งดำเนินคดี ในข้อหาความผิด ฐานลักทรัพย์ และ ข้อหาฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่เอาไว้ก่อน พร้อมกับจัดกำลังตำรวจดูแลที่โรงพยาบาลตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันผู้ต้องหาหลบหนี เมื่อรักษาหายแล้วจะนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.