ตำรวจคุมตัว “โกทร” และลูกสมุนฝากขัง ศาลคัดค้านประกันส่งตัวเข้าเรือนจำ บ้านใหญ่ยันไม่ได้สั่งฆ่า รัก สจ.โต้ง เหมือนลูก ผช.ผบ.ตร.ตรวจบ้านเกิดเหตุ เชื่อว่าล็อกประตูบ้าน วางแผนสั่งตาย “สจ.อุ๊” แสดงตัวเสียงในคลิปช่วยเป็นตัวกลางเคลียร์ใจ “สจ.จอย” ภรรยาพร้อม ลูกชายร้องขอโอนคดีให้กองปราบฯ เจ้าตัวกลัวไม่ปลอดภัยเลื่อนเผาศพไปก่อน ส่วนเส้นทางการเมืองต้องรอปรึกษาผู้ใหญ่ “กนกวรรณ” ปัดเรื่องส่งลูกชาย ลงแข่งเลือกตั้ง อบจ. ขณะที่ “ทักษิณ” ยังสนับสนุนภรรยา สจ.โต้ง นายกฯเร่งตั้งชุดเฉพาะกิจปราบมาเฟีย

จากเหตุยิงถล่มนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 21/1 ถนนวัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี ของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี อดีต รมช.สาธารณสุข และ สส.พรรคภูมิใจไทย พ่อของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ปมเหตุมาจาก สจ.โต้งมาเคลียร์ใจเตรียมส่ง น.ส.ณภาภัช อัญชาสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยา ชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี แต่บ้านใหญ่จะส่งคนอื่นมาแข่งกันเอง ทำให้โต้เรื่องโต้เถียงเป็นเหตุบานปลายถูกลูกน้องสาดกระสุนใส่ร่างพรุน ภายหลังตำรวจพบคลิปเสียงทั้งคู่เถียงกันถึงขั้นแตกหัก รวบตัวโกทรและพวกอีก 7 คน แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

“อัคราเดช” บินด่วนสางคดี

ความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ธ.ค. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. บินด่วนโดยเฮลิคอปเตอร์มายัง บก.ภ.จ.ปราจีนบุรี เพื่อมาติดตามคดีและลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พล.ต.ท.อัคราเดช ให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะเข้าประชุมรับฟังการสรุปคดีว่า ผบ.ตร.มอบหมายให้ตนมากำกับดูแลควบคุมการปฏิบัติ และมาติดตามการสืบสวนสอบสวน การรวบรวมพยายามหลักฐาน นอกจากนี้ ตนมาพร้อมกับตัวแทนจากสอบสวนกลางเพื่อที่จะมาหารือร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 จะไปดูที่เกิดเหตุก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วจะมาประชุมหารือว่ามีประเด็นใดบ้างที่ควรกำชับ มีส่วนไหนบ้างที่มารวบรวมเป็นพยานหลักฐานประกอบสำนวน ส่วนข้อสงสัยต่างๆที่สังคมสงสัยนั้นอยู่ในสำนวนการสอบสวนทั้งหมดว่า ผู้ตายเข้ามาในที่เกิดเหตุอย่างไร ทำไทม์ไลน์เพื่อพิสูจน์ทราบ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย มีการพูดคุยวางแผนมาก่อนหรือไม่

กล้องวงจรปิดเสียทั้งเมือง

พล.ต.ท.อัคราเดชกล่าวว่า ทั้งนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าการก่อเหตุมีที่มาที่ไปอย่างไร เบื้องต้นทราบว่าเป็นประเด็นการเมืองท้องถิ่น ผู้ตายกับผู้ก่อเหตุเคยเป็นกลุ่มเดียวกันมาก่อน ต่อมาเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามากวาดล้างเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ทำให้แตกแยกและมีเรื่องคาใจกันหลายเรื่อง กระทั่งมีปัญหาการเมืองท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ทั้งนี้ต้องมาดูว่ามีประเด็นอื่น มีใครเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง เมื่อถามว่าหลักฐานที่บอกว่ากล้องวงจรปิดเสียกันทั้งเมืองจะรวบรวมหลักฐานอย่างไร พล.ต.ท.อัคราเดชตอบว่า พฐ.จะตรวจสอบ ทั้งนี้รวบรวมพยานหลักฐานมากพอสมควร ส่วนกล้องวงจรปิดเป็นส่วนประกอบหนึ่งในสำนวน อย่างไรก็ตามคดีหลายๆคดีที่ไม่มีกล้องวงจรปิดสามารถรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องได้ จากนั้นไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมคุมผู้ต้องหาไปชี้จุด 3 คน

ดวลปืนกันทั้ง 2 ฝ่าย

ภายหลังตรวจบ้านที่เกิดเหตุเสร็จ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี เปิดเผยภายหลังจากพาผู้ต้องหาทั้ง 3 คนชี้จุเกิดเหตุ พบว่าผู้ก่อเหตุยิงกันที่บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน สอดคล้องกับการจำลองเหตุการณ์ทั้งหมด พฐ.อยู่ระหว่างรวบรวมมาให้ ส่วนกรณีของผู้ยิงตอนนี้รู้แล้วแต่อยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้ สำหรับบ้านหลังเกิดเหตุมี 3 ชั้น เหตุเกิดเริ่มที่ชั้น 2 ส่วนชั้นที่ 3 พบร่องรอยการถูกทำร้ายและการยิงต่อเนื่องลงมาถึงชั้นล่าง บริเวณชั้นล่างพบพยานหลักฐานคือปลอกกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าคนร้ายน่าจะลงมายิงซ้ำ จุดเกิดเหตุพบว่ายิงทั้งจากในบ้านและนอกบ้านลักษณะเป็นการยิงต่อสู้กัน ขณะนี้รอให้กองพิสูจน์หลักฐานสรุปให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนกรณีกล้องวงจรปิดต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าใช้การได้ทั้งหมดหรือไม่ และกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพช่วงขณะเกิดเหตุไว้ได้หรือไม่

เชื่อวางแผนฆ่าไว้ล่วงหน้า

ผช.ผบ.ตร.เผยอีกว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมีการวางแผนมาเป็นขั้นเป็นตอนล่วงหน้ามีการล็อกเป้า ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เตรียมแจ้งข้อหากลุ่มผู้ก่อเหตุเพิ่มในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อย่างไร ก็ตาม กลุ่มผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงแต่ต้องรอพิสูจน์

สอบตำรวจ 4-5 นายอยู่นอกบ้าน

ส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวออกไปก่อนหน้านี้ว่ามีตำรวจ 4-5 นายอยู่ในที่เกิดเหตุนั้น ผช.ผบ.ตร. ยืนยันว่าในที่เกิดเหตุไม่มีตำรวจ แต่ยอมรับว่ามีตำรวจอยู่บริเวณด้านนอกจริง ตำรวจ 4-5 นายนี้ไปดูแลความปลอดภัยให้กับบุคคลแต่จะเป็นบุคคลใด ระหว่างเจ้าของบ้านหรือผู้เสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องรอผลการสอบสวนอีกครั้ง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มีการยิงโต้ตอบกัน สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเป็นการเข้าไปพยายามที่จะระงับเหตุ ส่วนขั้นตอนจะเป็นอย่างไรรอให้คณะทำงานของตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ล็อกประตูบ้านกระหน่ำยิง

นอกจากนี้ยังสอบปากคำประเด็นเรื่องการตกแต่งสถานที่เกิดเหตุพบว่าพยายามเปลี่ยนแปลง สถานที่บางอย่าง จากการที่สอบปากคำอย่างละเอียด ทำให้มั่นใจได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินมาถูกทางแล้ว ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุหรือผู้บงการจะมีคนเดียวหรือหลายคนอยู่ระหว่างการสอบสวน ช่วงเกิดเหตุคนในบ้านล็อกประตูบ้านแล้วก่อเหตุยิง เป็นการล็อกเป้าเหยื่อล่วงหน้ามีการวางแผนจะเตรียมการไว้ก่อน ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบฉับพลันทันด่วน วิถีกระสุนที่เกิดเหตุพบว่าผู้ตายวิ่งหนีลงมาจากชั้น 2 จนถึงชั้นล่างและคนร้ายตามมายิงซ้ำ คนร้ายเปิดฉากยิงผู้ตายด้วยปืนลูกซอง ทำให้ผู้ตายไม่สามารถหลบหนี

สอบตำรวจสมุนนักการเมือง

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า คดีนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะต้องดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาและเด็ดขาดยุติธรรม คาดว่าจะมีการพิจารณาในเรื่องที่ร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว พร้อมระบุ ผบ.ตร.ยังได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าไปดูเรื่องคดี เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในทุกมิติและสั่งการให้ผู้บัญชาการภาคต่างๆและผู้บังคับการตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเด็ดขาดกับผู้มีอิทธิพล ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีตำรวจในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้องและเป็นลูกน้องของ สจ.โต้ง นั้น ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการตรวจสอบให้ครบถ้วนทุกมิติว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องในด้านไหนบ้าง แม้จะไม่มีส่วนร่วมในการกระทำผิด แต่หากพบมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจะต้องดำเนินการทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด

“บ้าบอ” ไม่ได้สั่งฆ่าใคร

ต่อมาช่วงบ่าย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี คุมตัวโกทร และลูกน้องรวมทั้งหมด 7 คนไปฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนและเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง อีกทั้งผู้ต้องหายังมีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพล เกรงว่าหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว หรือปล่อย ตัวชั่วคราวอาจเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและหลบหนี ยากต่อการติดตามตัวมาดำเนินคดีภายหลังได้ ระหว่างนำตัวไปฝากขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามโกทรถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความสัมพันธ์กับ สจ.โต้ง เป็นอย่างไร ก่อนโกทรตอบว่า รักเหมือนลูกหลาน เมื่อถามว่าการเลือกตั้ง อบจ.เคลียร์กันแล้วใช่หรือไม่ โกทรตอบว่า เรียบร้อยแล้ว ถามว่าวางแผนร่วมกันฆ่าโกทรเป็นคนสั่งหรือไม่ โกทรตอบว่า ใครฆ่า จะฆ่าทำไม บ้าบอ ผมช่วยเขาตลอด

“โกทร” และสมุนเข้าเรือนจำ

ต่อมาทนายความนำหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดในชั้นศาล ศาลพิจารณาเห็นพ้องตามพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดปราจีนบุรี

“สจ.อุ๊” แสดงตัวเสียงในคลิป

ต่อมานายกฤษฎ์ กษมพันธุ์ หรือ สจ.อุ๊ รอง นายก อบจ.ปราจีนบุรี มาให้ปากคำกับตำรวจและเปิดเผยว่า ในคลิปเสียงคือเสียงของตน วันเกิดเหตุ สจ.โต้งโทรศัพท์มาหาบอกว่าจะเข้าไปคุยกับโกทรให้รู้เรื่อง ในประเด็นการลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดว่า จะช่วยเหลือและซัพพอร์ตหรือไม่ เป็นตัวกลางโทรศัพท์ประสานงานไปยังโกทร เพื่อให้พูดคุยเจรจากับ สจ.โต้งให้เสร็จ สุดท้ายเข้าไปพูดคุยกันจริงๆ จะมีปากเสียงตอบโต้กันไปมา จะช่วยจริงหรือไม่ช่วยจริง “ผมก็ไม่รู้ว่าคลิปเสียงหลุดไปได้อย่างไร ต้องคอยช่วยพูดคุย เพื่อไม่ให้เกิดความคาใจกัน เนื่องจากระหว่าง สจ.โต้งกับโกทร ชอบมีปากเสียงกัน เหมือนพ่อลูกทะเลาะกันถือว่าตัวเองเป็นรองนายก อบจ. ไม่อยากให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน เมื่อคุยไปคุยมาโกทรก็รับปากว่าจะช่วยแล้วก็ร้องไห้ จน สจ.โต้งก้มลงไปกราบเท้า ก่อนจะพยุง โกทรเข้าไปห้องนอน ก่อนที่ผมกับ สจ.โต้งจะเดินออกจากบ้าน แต่บ้านโกทรเป็นประตูรีโมตเลยตะโกนเรียกนายดราฟ เป็นลูกชายของนางกนกวรรณให้เปิดประตูให้ แต่นายดราฟไม่ได้ยิน ตนเหลือบไปเห็นนายดาว นางติ๋ม นั่งอยู่ตรงห้องรับแขกในบ้าน บรรยากาศในบ้านก็เปิดไฟตามปกติ”

เสียงปืนดังสนั่นหลายนัด

นายกฤษฎ์กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีการปิดไฟยิง สจ.โต้งเดินเข้าไปในบ้านอีกรอบ ส่วนตนเดินออกมายืนคุยกับนายกตุ๋ย ยืนยันไม่ได้เป็นการล็อกประตูจากด้านใน ประตูแบบนี้ต้องใช้รีโมตในการเปิดเท่านั้น กระทั่งผ่านไปไม่นานได้ยินเสียงปืนรัวดัง รอบที่ 1 ราวประมาณ 10 กว่านัด จากนั้นเสียงปืนชุดที่ 2 ห่างกัน 20-30 วินาที ตอนแรกคิดว่า โกทรอาจจะเครียดและยิงปืนขึ้นฟ้า ปรากฏว่าโกทรโทร.หาตนถามว่า “มึงอยู่ไหน เกิดอะไรขึ้น พวกมึงมายิงปืนในบ้านกูกันทำไม” ตนบอกให้โกทรปิดประตูห้องอย่าเพิ่งออกมา เมื่อตำรวจเข้ามาเคลียร์ ตำรวจมาดูวิถีกระสุนก็น่าจะรู้ จะยิงตอบโต้จากภายนอกเข้าไปหรือไม่นั้น ตนขอไม่พูดเพราะไม่เห็น มีความเป็นไปได้ทั้งหมด เพราะบริเวณด้านนอกก็มีในส่วนที่เป็นลูกน้องของ สจ.โต้งด้วย ส่วนจะเป็นการไล่ยิงจนล้มหรือเป็นการยิงซ้ำหรือไม่นั้น ไม่ทราบ

“ดาบใจ” ลูกน้องอยู่หน้าบ้าน

นายกฤษฎ์กล่าวอีกว่า ยืนยันไม่เห็นมือปืนทั้ง 7 คนอยู่ในบ้าน พอจะเข้าใจได้เพราะลูกน้องน่าจะอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน เนื่องจากโกทรเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล มีลูกน้องคอยช่วยพาไปหาหมออยู่แล้ว ขอย้ำว่าคลิปเสียงนั้น เป็นช่วงก่อนเกิดเหตุ ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ปกติแล้วการเดินเข้าออกบ้านนั้นเป็นไปตามปกติอยู่แล้ว ส่วนลูกน้องที่อยู่ในบ้านนั้น ก็พักอยู่ในบ้านตามปกติอยู่แล้ว ย้ำว่านาทีเข้าไปคุยกันตั้งแต่ตอนแรก ไม่เห็นลูกน้องแม้แต่คนเดียว ไม่รู้ว่าอยู่โซนไหน และนอกจากคนในบ้าน ด้านนอกมีตำรวจจริงก็คือ ดาบใจและไม่มีนักการเมืองท้องถิ่น เรื่องการพกพาอาวุธปืน ไม่ใช่อาวุธสงคราม และปืนที่พกของลูกน้องที่ต้องใช้ไว้ป้องกันตัว เป็นเรื่องปกติ สำหรับคนที่ติดตามนักการเมือง ต้องพกพาอาวุธปืนกันอยู่แล้ว

ร้องขอโอนคดีให้กองปราบ

ต่อมาเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.ณภาภัช อัญชาสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยา สจ.โต้ง และบุตรชาย พร้อมด้วยนายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ เข้าพบ พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขอให้รับโอนสำนวนคดีการเสียชีวิตของ สจ.โต้ง มาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจกองปราบฯ เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ นายนิติศักดิ์กล่าวว่า อดีตเคยเป็นทนายความให้กับ สจ.โต้ง หลังเกิดเหตุ น.ส.ณภาภัช หรือ สจ.จอย ติดต่อมาหาหลังกังวลเรื่องความปลอดภัย และเกรงว่าคดีจะโดนแทรกแซงจากผู้มีอิทธิพล ไม่ใช่ว่าตำรวจท้องที่ทำงานไม่ได้ ชื่นชมเพราะหลังเกิดเหตุสามารถจับกุมคนร้ายได้ทันควัน แต่เนื่องจากคดีนี้มีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้องมีความคุ้นเคยกับตำรวจท้องที่ น.ส.ณภาภัชอยากให้กองปราบฯ ที่เป็นหน่วยงานจากส่วนกลางรับโอนคดีมาดำเนินการแทน ผิดถูกว่าไปตามข้อเท็จจริง ใครที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีให้หมด

ขอภาพกล้องวงจรปิดในบ้าน

นายนิติศักดิ์กล่าวต่อ จากหลักฐานคลิปเสียงที่ปรากฏออกมาค่อนข้างชัดเจนว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จะผิดจะถูกก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงต้องได้รับความเป็นธรรม สำหรับคดีนี้เชื่อว่าถ้าเข้าหลักเกณฑ์ของกองปราบฯก็น่าจะรับเรื่อง ถ้าอยู่ในมือของตำรวจกองปราบฯ ครอบครัวผู้ตายน่าจะได้รับความเป็นธรรม ถ้าเป็นไปได้อยากให้โอนคดีมาที่นี่ และถ้ากองปราบฯรับทำคดี หากต้องการให้ช่วยติดต่อประสานพยานบุคคลมาสอบปากคำเพิ่มเราพร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนกรณีเรื่องกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ถ้าไม่ได้เสียให้เอามาข้อเท็จจริงจะได้ปรากฏ แต่ถ้าอ้างว่าเสียหรือพังนั้นจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัด พร้อมมั่นใจว่าคดีนี้ถ้าอยู่ในมือกองปราบฯ ข้อเคลือบแคลงหลายๆอย่างจะกระจ่างได้

“สจ.จอย” กลัวอิทธิพลมืด

ขณะที่ น.ส.ณภาภัช หรือ สจ.จอย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุยังไม่เคยพูดคุยกับนายสุนทร หรือโกทร และไม่พร้อมที่จะเจอหรือพูดคุย ส่วนเรื่องลงเล่นการเมืองหลังจากนี้ต้องรอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุย มีปรึกษาแค่เรื่องงานศพ ยอมรับว่ากลัวมากเพราะอยู่กันลำพังสองแม่ลูก ปัจจุบันให้ญาติมานอนเป็นเพื่อน ยอมรับว่าที่ผ่านมาสามีกับโกทรทะเลาะกันเป็นประจำ แต่ทุกครั้งก็จบกันด้วยดี ด้วยความที่ สจ.โต้งนับถือเขาเป็นพ่อบุญธรรม เขารักมากนับถือกันมากว่า 20 ปี ส่วนวันเกิดเหตุทราบว่าเข้าไปในบ้านคนเดียว ตั้งใจจะส่งโกทรเข้านอนหลังเคลียร์ใจกันเสร็จแล้ว ตอนเข้าไปไม่มีอาวุธปืน ดังนั้นเสียงปืนที่ดังขึ้นไม่ใช่จากสามีก่อนแน่นอน

“โกทร” ร้องไห้ขณะเคลียร์ใจ

เมื่อถามว่าช่วงระหว่างที่ สจ.โต้งกับโกทรโต้เถียงกันนั้น โกทรเสียใจร้องไห้ ก่อนจะพูดเคลียร์ใจกันภายหลังจริงหรือไม่นั้น น.ส.ณภาภัชยอมรับว่า เรื่องโกทรร้องไห้ เป็นเรื่องจริง และจากที่ได้รับฟังจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นทราบว่า สจ.โต้ง ได้ขอโทษก้มลงกราบเท้าโกทรไปแล้ว การเสียชีวิตของสามีย่อมได้รับผลกระทบ เพราะเป็นเสาหลักของครอบครัว ถ้าใครรู้จักจะรู้ว่าเขามีแต่ให้ แม้บุคลิกจะดูขี้โวยวาย ถ้ารู้จักหรือสนิทกันจะรู้ว่าเป็นคนอย่างไร ส่วนเรื่องที่มีผู้ทาบทามไปสังกัดอยู่พรรคการเมืองอื่น เรื่องนี้ยังไม่ทราบข้อมูล เพราะหน้าที่เราคืออยู่หลังบ้านคอยซัพพอร์ตเขา เรื่องงานหรือปัญหาเชิงลึกเขาไม่ได้เล่าให้ฟัง ถามว่าในวันเกิดเหตุ สจ.โต้งมีตำรวจติดตามไปที่บ้านของโกทรด้วยหรือไม่ น.ส.ณภาภัชตอบว่า ข้อมูลส่วนนี้ตนไม่ทราบว่ามีใครไปด้วยบ้าง เพราะรู้เรื่องอีกทีคือตอนที่สามีถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ส่วนเรื่องที่มีการกล่าวอ้างว่า สจ.โต้งเคยมีปัญหาส่วนตัวทะเลาะกับมือปืนผู้ก่อเหตุนั้น เรื่องนี้ไม่ทราบข้อมูล ถ้าแค่ตบหัวจะถึงกับต้องยิงกันเลยหรือ

เลื่อนเผาศพไม่มีกำหนด

สจ.จอยกล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ยังกังวลเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกในอนาคต โดยหลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนกำหนดการฌาปนกิจศพของ สจ.โต้ง จากเดิมวันที่ 17 ธ.ค. ไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

“กนกวรรณ” ปัดเรื่องส่งคู่แข่ง

ขณะที่นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ลูกสาวนายสุนทรเปิดใจว่า เรื่องคดีขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้มีความกังวลใจอะไร สิ่งที่เป็นห่วงก็คือสุขภาพของนายสุนทร ผู้เป็นพ่อ ป่วยโรคประจำตัวหลายโรค เพิ่งผ่าตัดหัวเข่ามาทำให้เดินไม่ค่อยสะดวก ส่วนเรื่องการเสียชีวิตของ สจ.โต้ง ที่มีการเชื่อมโยงเรื่องการเมือง นางสาวกนกวรรณกล่าวว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้คิดจะส่งใครไปลงเป็นคู่แข่งตามกระแสข่าวลือที่ออกมา โดยเฉพาะกระแสข่าวที่บอกว่าตนจะส่งลูกชายลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ลูกชายตนเกิดปี พ.ศ.2538 อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.

ยืนยันสนับสนุน “สจ.โต้ง”

นางกนกวรรณเผยอีกว่า ส่วนตัวสนับสนุน สจ.โต้งในการลงชิงนายก อบจ. นายสุนทรก็สนับสนุน สจ.โต้ง พ่อรัก สจ.โต้งเหมือนกับลูก เราอยู่ด้วยกันมานาน ตนรัก สจ.โต้งเหมือนกับน้องชาย รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนกระแสข่าวที่เชื่อมไปยังประเด็นการเมืองน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ส่วนตัวแล้วไม่ทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะระหว่างที่เกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในบ้าน วันนั้นตั้งใจจะไปหาหมอเพราะเลยกำหนดนัดหมอ ยืนยันว่าพ่อสนับสนุน สจ.โต้งอยู่แล้ว เพราะอยู่กันมานาน บางทีเขาก็เหมือนคนเมามีจะการพูดคุยกันเสียงดัง แต่เขารักกัน

“ทักษิณ” ซัดเลวร้ายอิทธิพลเถื่อน

ที่สถานีรถไฟบางบำหรุ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสนามเลือกตั้งนายก อบจ.มีความดุเดือด หลังเกิดเหตุยิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง เสียชีวิตในบ้านพักนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ. ปราจีนบุรี หรือโกทรว่า ที่ จ.ปราจีนบุรีต้องเข้าใจว่าเป็นเขตอิทธิพลของโกทรมานานแล้ว เรื่องการเมืองก็มีการฮั้ว หากไม่ลงตัวก็ฆ่ากันก็เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ตำรวจจัดการได้เร็วมากล้อมจับกุมได้หมด เมื่อถามว่ามีการเปิดเผยแชตว่าได้มีการคุยกันระหว่างคนสนิทท่านและ สจ.โต้ง นายทักษิณกล่าวว่า ใช่ครับ สจ.โต้ง อยากให้ภรรยาลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ในนามพรรคเพื่อไทย (พท.) สจ.โต้งยืนยันว่าได้คุยกับโกทรแล้ว แต่ว่าถูกเรียกไปคุยอีกครั้งหนึ่ง ตนเข้าใจว่าคงเป็นการเรียกไปต่อรองหรืออะไรกัน ตนไม่รู้ ต้องรอผลการสอบสวนจากตำรวจ

ผลักดันภรรยาแทน

เมื่อถามว่าพรรค พท.จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรีใช่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ใช่ครับ ตอนนั้นมาคุยกันว่า สส.ทุกคนในเขตปราจีนบุรี เป็นข้อยุติสนับสนุนภรรยา สจ.โต้ง เมื่อถามว่า แต่ขณะนี้ภรรยา สจ.โต้งขอถอนตัวแล้ว นายทักษิณกล่าวว่า คงไม่กล้าลงเพราะอิทธิพลยังไม่จบ ฉะนั้นวันนี้เป็นหน้าที่ที่ตำรวจจะกวาดล้างอิทธิพลปราจีนบุรีให้เกลี้ยง เมื่อถามว่าพรรค พท.จะส่งใครแทนภรรยา สจ.โต้งหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ให้ทางพรรคเป็นคนพิจารณา

นายกฯจ่อตั้งทีมปราบมาเฟีย

เมื่อถามว่าการเมืองท้องถิ่นยังรุนแรงขนาดนี้ มีความกังวลการเลือกตั้งระดับประเทศหรือไม่ เพราะกล่องดวงใจของท่านก็อยู่ในวงการเมือง นายทักษิณกล่าวว่าไม่กังวล วันนี้ต้องทำหน้าที่ของเรา เมื่อมีหน้าที่แล้วจะละทิ้งหน้าที่ไม่ได้ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตอนที่ตนเป็นนายกฯก็ถูกลอบฆ่า 4 ครั้ง แต่วันนี้เหตุการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ความรุนแรงต่างๆ ในระดับประเทศมันลดลงไปเยอะ ในท้องถิ่นเองก็เหลือน้อยแล้ว เมื่อถามว่าสนามเลือกตั้งอื่นๆที่จะมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาจะต้องพิจารณาอะไรให้รอบคอบหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า มันไม่มีอะไรหรอกถ้าพรรคแกนนำรัฐบาลกลัวผู้มีอิทธิพลก็แย่แล้ว เราไม่ต้องไปกลัวหรอก ต้องปราบผู้มีอิทธิพลให้เกลี้ยง ดูที่ จ.ปราจีนบุรี เดี๋ยวอิทธิพลก็หมดเกลี้ยงแน่ ถ้าหลายจังหวัดเป็นแบบนี้ตำรวจต้องจัดการ ตำรวจเดี๋ยวนี้ฟิต ไม่ต้องซื้อขายตำแหน่งแล้วทำงานได้เต็มที่ เห็นนายกฯกำลังคิดอยู่ว่า กำลังจะตั้งทีมเฉพาะกิจที่นายกฯคุมเอง บางทีต้องเอาสักหน่อย เพราะปล่อยไว้นาน

เรื่องส่วนตัวไม่กระทบเลือกตั้ง

ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงเหตุยิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรืออดีต สจ.โต้ง ที่ จ.ปราจีนบุรี ว่า น่าจะเป็นเรื่องของการเมืองในพื้นที่ เป็นเรื่องส่วนตัว สำนักงาน กกต.ไม่กังวลในเรื่องนี้ ความผิดที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกฎหมายอื่น แต่เมื่อไหร่เข้ามาสู่ระบบการเมือง ก็ต้องดูตามกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนความขัดแย้งอย่างอื่นที่จะส่งผลต่อการเลือกตั้ง ตนดูแลอยู่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และคิดว่าไม่น่าจะกระทบอะไร ผอ.กกต.จังหวัดรายงานมาว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในข่าวระบุว่าเกี่ยวกับการที่จะเลือกนายก อบจ. จะติดตามดูว่าจะมีผลอะไร แต่ข้อมูลวันนี้ยังคิดว่าไม่มีผลกระทบต่อการบริหารจัดการเลือกตั้ง และการควบคุมให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม แต่เรื่องการออกไปใช้สิทธิของประชาชนเป็นโจทย์ของสำนักงาน เพราะต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้สิทธิในวันที่ 1 ก.พ.2568 ให้มากที่สุด รวมถึงจังหวัดอื่นๆ