![ตำนานตระกูลคชหิรัญ: ช้างและการเมืองไทย ตำนานตระกูลคชหิรัญ: ช้างและการเมืองไทย](https://static.thairath.co.th/media/dFQROr7oWzulq5Fa6rHCKGHkFWVtEgJUkZAoPY9hm10MIMcse7Cr6AFUMtsE3vSRGWo.jpg)
เรื่องช้างในหนังสือ ช ช้าง กับ ค คน (สำนักพิมพ์สารคดี พ.ศ.2550) ที่ศรัณย์ ทองปาน เขียน ผมสะดุดใจหลายเรื่อง เรื่องตะกร้อช้างเตะ…เขียนไปแล้ว เรื่องเพื่อนช้าง นางพลับ คลองบางหลวงอ้ายเอียง อำเภอบางบาล อยุธยา
เรื่องนี้เป็นเรื่องยอดฮิตของงานเสด็จประพาสต้นรัชกาลที่ 5 ก็อยากให้เด็กๆรุ่นหลังได้อ่าน
แล้วก็เจอเรื่อง ชายชื่อช้าง อีกคน บรรดาศักดิ์ หลวงอภัยเภตรา บ้านริมแม่น้ำน้อย ห่างจากบ้านเพื่อนช้างไปสิบกว่า กม. ตำแหน่งเป็นนายอำเภอเสนาใหญ่มีภรรยาชื่อนางเงิน มีบันทึกว่า ถึงแก่กรรมปี พ.ศ.2437
ก่อนถึงแก่กรรมหลวงอภัยเภตรายกหมู่ตึกเก๋งจีน ริมแม่น้ำน้อย เขตอำเภอผักไห่ ถวายให้เป็นวัด วัดนี้จึงมีชื่อตามเจ้าของ ช้าง-คช เงิน-หิรัญ เรียกกันเป็นหลักฐาน วัดตึกคชหิรัญ
ตุลาคม พ.ศ.2451 รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสทางเรือจากบางปลาม้า ผ่านมาถึงวัดนี้ทรงทราบว่าวัดไม่มีคนจองกฐิน จึงเสด็จพระราชทานผ้าพระกฐิน
เรื่องนี้ผมอ่านครั้งแรก ก็เอะใจรักชอบ กับ “พี่เล็ก” อุดมพร คชหิรัญ (นาท ภูวนัย) มานาน…ตั้งใจจะโทร.ไปถาม ต้นตระกูลพี่อยู่ที่นั่นจริงหรือ? แต่ก็เผลอลืม วันนี้อ่านอีกที ก็รีบโทร.
ได้เนื้อความทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ อึ้งทึ่ง ประทับใจ เกินคาดหมาย
พี่เล็กบอกคนในตระกูลคชหิรัญอีกคน ชื่อแม้น บรรดาศักดิ์ หลวงจงใจหาญ ตำแหน่งสุดท้ายเป็นนายอำเภอพรหมพิราม พิษณุโลก
หลวงจงใจหาญ เป็นคนเข้มแข็งเด็ดขาด ซื่อตรงมั่นคง ไล่ปราบโจรผู้ร้ายจนถูกหมายหัว
จะไปไหนกระทั่งอยู่บ้านก็จะมีลูกน้องคนหนึ่ง คอยคุ้มกันใกล้ตัว แต่มื้อค่ำวันนั้นหลวงจงใจหาญวางใจ เรียกลูกน้องคนนั้นมาร่วมวงกินข้าว มือปืนได้ช่อง บุกยิงตายในระยะเผาขน
นี่เป็นเรื่องราว รุ่นปู่ มาถึงรุ่นพ่อ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ตำแหน่งเป็นนายเวร พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ ยุคที่มีสโลแกน “ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้
หลังจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจ เปิดทางให้ พล.ต.อ.เผ่า เพื่อนรักหักเหลี่ยมการเมือง ลี้ภัยไปอยู่สวิตเซอร์แลนด์ ข่าวขึ้นหน้าหนึ่ง หนังสือพิมพ์ลงภาพ พ.ต.อ.ศิริ นายเวรตามไปส่งนายถึงเครื่องบินวินาทีสุดท้าย
การเมืองพลิกเหลี่ยมอำนาจ นาท ภูวนัย เล่าว่าพ่อสั่งให้คนทั้งครอบครัว เก็บข้าวของจากบ้านในกรุงเทพฯ ไปพักดูท่าทีที่นครปฐม ก่อนจะตัดสินใจหนี
จอมพลสฤษดิ์ สั่ง พ.ต.อ.สิริ รายงานตัวที่กองบัญชาการคณะปฏิวัติ ในห้องใหญ่ที่ผิดสังเกต ปิดไฟมืด ท่านผู้นำถาม พ.ต.อ.ศิริ หลายประโยค ผ่านประโยค…เป็นเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกับเผ่า ไปถึงประโยคสุดท้าย
“มึงจะตายแทน นายมึงหรือไม่?” พ.ต.อ.ศิริ ชะงักนิดแล้วตอบเต็มเสียง “ได้ครับ”
จบคำตอบ ไฟในห้องก็เปิดสว่าง…เห็นนายทหารลูกน้อง จอมพลสฤษดิ์ เต็มห้อง ท่านจอมพลเสียงดัง “ทหารพวกมึงเห็นไหม ตำรวจเขารักกันจริง…”
แล้วฉากชีวิตคนตระกูลคชหิรัญ ก็พลิกเหลี่ยมไปอีกด้าน “กูจะให้มึงไปเป็นผู้ว่าฯยะลา”
ที่ยะลา พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ สร้างตำนานหน้าใหม่ ปฏิรูปผังเมืองยะลาโอ่อ่าอัครฐาน ต้นไม้ทุกต้นในจวนผู้ว่าฯ ครูเปาะสู วาแมดิซา มาปลูกให้ทุกต้น ลูกๆครูเปาะสู เรียกผู้ว่าฯศิริ “พ่อ” ทั้งโจรการเมือง ทั้งโจรผู้ร้าย สงบเรียบร้อย
และเรื่องที่ดังยิ่งกว่า คดีกินป่าเบตงสินบน 3 ล้าน พล.อ.สุรจิต จารุเศรนี รมว.เกษตรฯถูกจับเข้าคุกตายในคุก
ตำนานตระกูล คชหิรัญ บทนี้ยิ่งใหญ่ยืดยาว ผมเห็นจะต้องขอค้นและคุ้ยมาเขียนต่ออีกวัน.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ