เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งตามหาสาวขับเก๋งดำ ชนเด็ก ป.5 กระเด็น จอดลงมาดู ซ้ำต่อว่า เล่นกันไม่มองรถ แถมไม่พาไป รพ. 

จากกรณีเด็กนักเรียนชายชั้น ป.5 โรงเรียนวัดหนองป่าครั่ง ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ ถูกรถยนต์เก๋งสีดำเฉี่ยวชน ขณะกำลังเดินกลับบ้านอยู่ริมถนนหลังเลิกเรียนจนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่คนขับรถคันดังกล่าวได้ลงจากรถมาดู พร้อมกับต่อว่าเด็กที่เดินไม่ดี และเล่นผลักกันจนออกมานอกถนน ทำให้ถูกชน ก่อนจะขับรถออกไปโดยไม่ได้รับผิดชอบพาไปโรงพยาบาล ทำให้พนักงานร้านประดับยนต์ที่อยู่ใกล้เคียงต้องเข้ามาช่วยเหลือ โดยเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา บนถนนธนุษย์พงษ์ ซอยเข้าโรงเรียนวัดหนองป่าครั่ง 

ล่าสุด วันที่ 30 ก.ย. 67 ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ ได้รับการยืนยันข้อมูลจากพนักงานร้านประดับยนต์ที่อยู่ในเหตุการณ์ ระบุว่า ขณะเกิดเหตุเห็นทั้งสองคนเดินริมถนนตามปกติ ไม่ได้เล่นผลักกันตามที่คนขับรถอ้าง หลังเกิดเหตุเด็กที่ถูกชนมีอาการจุก จนเดินไม่ไหว หลังจากให้นั่งพักดูอาการสักครู่เริ่มดีขึ้น เด็กก็เดินกลับไปหาแม่ที่ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ

หลังจากนั้น แม่ได้พาเด็กไปที่โรงพยาบาล แพทย์ได้เอกซเรย์ตรวจร่างกาย โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แต่ยังมีอาการจุกปวดท้องอยู่ ตอนแรกแม่เด็กไม่แจ้งความ เพราะไม่มีหลักฐาน แต่พอมาทราบภายหลังว่า กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้จึงนำเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ. แม่ปิง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (29 ก.ย.)

หลังเข้าแจ้งความ พ.ต.อ.ญาณพล พัฒนชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลหลักฐานเร่งด่วน ล่าสุดทราบตัวคนขับแล้วอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวน

ขณะที่เจ้าของร้านในซอยเกิดเหตุบอกว่า ซอยนี้เป็นซอยแคบ มีเด็กนักเรียนเดินเข้าออกทุกเช้าเย็น จึงขอให้ผู้ใช้รถมีความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีก ครั้งนี้โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก

จากการสอบถาม น.ส.เอ อายุ 30 ปี เจ้าของคลิป เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ตรงกับที่หญิงสาวที่ขับรถเก๋งสีดำชนเด็กนักเรียนชายชั้น ป.5 ซึ่งได้อ้างว่าเด็กนักเรียนเล่นกันแล้วเซมาชนรถเอง และเด็กไม่ได้เป็นอะไร จึงไม่ได้ไปโรงพยาบาล ตนจึงไม่ติดใจ ช่วยเหลือเด็ก และปฐมพยาบาลเบื้องต้น กระทั่งมาทราบข่าวจากเด็กในร้านว่า เด็กนักเรียนชายเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการจุกหน้าท้องและชาท่อนล่าง ทำให้ตนรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก จึงได้นำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพื่อตามหาคนขับให้มารับผิดชอบน้อง และเป็นอุทาหรณ์ให้คนใช้รถใช้ถนนในซอยธนุพงษ์เพิ่มความระมัดระวัง

ขณะที่นางบี แม่ของเด็ก เผยว่า ลูกชายเป็นนักเรียนชั้น ป.5 อายุ 10 ขวบ ซึ่งจะใช้ถนนเส้นนี้กลับที่พักพร้อมกับเพื่อนมากว่าครึ่งปีแล้ว และได้สอนลูกเสมอให้เดินชิดขอบถนนให้มากที่สุด เพราะซอยแคบ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุรถชนลูกชายตนเอง

ซึ่งตอนแรกไม่เห็นเหตุการณ์ จึงไม่กล้าที่จะแจ้งความ แต่รู้สึกสงสารลูกที่มีอาการจุกท้องและชาท่อนล่าง กลัวว่าจะได้รับบาดเจ็บภายใน จึงได้พาไปโรงพยาบาลตรวจอย่างละเอียด ซึ่งโชคดีที่ไม่มีอาการรุนแรง แต่ก็ต้องเฝ้าดูอาการ เนื่องจากมีอาการฟกช้ำภายใน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง แต่เมื่อวันที่ 29 ก.ย. เวลา 19.00 น. ตนได้มาขอบคุณทางร้านที่ช่วยเหลือลูกเบื้องต้น และได้เห็นคลิป รู้สึกตกใจ เพราะลูกชายถูกรถชนอย่างแรง และจากคลิปจะเห็นว่า ลูกชายเดินชิดขอบถนนแล้ว แต่รถคันดังกล่าวขับมาชนเหมือนกับว่าไม่เห็นมีเด็กเดินอยู่บนถนน และยิ่งได้สอบถามจากลูกชายบอกว่า คู่กรณีที่ชนได้จอดรถลงมาดู พร้อมกับต่อว่าลูกชายที่เดินไม่ดูรถ เพราะมัวแต่เล่นกัน และไม่แสดงความรับผิดชอบที่จะพาเด็กไปโรงพยาบาล หรือพยายามช่วยเหลือพาเด็กไปส่งที่พักเพื่อแสดงถึงน้ำใจ จึงรับไม่ได้ และเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.แม่ปิง เพื่อให้คู่กรณีติดต่อมาแสดงความรับผิดชอบ รวมถึงเพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นถนนชุมชน ควรใช้ความระมัดระวัง โชคดีที่ลูกชายตนไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส