คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอเข้าสอบปากคำ 11 บอสชายภายในเรือนจำ ขีดเส้นส่งสำนวนพร้อมความเห็นในคดีให้อัยการวันที่ 3 ธ.ค. ตามกรอบเวลา ยืนยันยังค้านประกันตัว ผู้ต้องหาทั้ง 18 คนต่อไป “ทนายบอสพอล” โวย ไม่ยุติธรรม เพราะพยานฝ่ายผู้ต้องหากว่า 2 พันคนส่อแห้ว ไม่ได้สอบคำให้การเข้าสำนวน เตรียมร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการต่อไป แต่ยังไม่ฟ้องดำเนินคดีคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอตาม ม.157 ด้าน “จิราพร สินธุไพร” ลั่นกลางวง สคบ.เร่งกู้ภาพลักษณ์ เรียกประชุมทั้ง สคบ. ตำรวจ ดีเอสไอและ ปปง. หาแนวทางการป้องกันปัญหาแชร์ลูกโซ่ พร้อมขอความเห็นกฤษฎีกาว่าสามารถเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงของบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป ได้หรือไม่
การสืบสวนคลี่คลายบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ดำเนินธุรกิจขายตรงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ กล่าวหาหลอกให้ลงทุนและหาลูกข่ายมาเป็นสมาชิก สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการนำดารานักแสดงชื่อดังมาร่วม หลังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เดินเครื่องสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา 18 คน ตั้งแต่นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล นายยุรนันท์ หรือบอสแซม ภมรมนตรี น.ส.พีชญา หรือบอสมิน วัฒนามนตรี และนายกันต์ หรือบอสกันต์ กันตถาวร รวมถึงแม่ข่ายและผู้เกี่ยวข้อง คุมตัวฝากขังเข้าเรือนจำไปแล้ว ต่อมาโอนสำนวนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณาแจ้งข้อหากู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯเพิ่มเติมกับ 18 บอสในเรือนจำ จากนั้นเรื่องราวบานปลายกลุ่มบอสดิ ไอคอน กรุ๊ปนำคลิปเสียงออกมาแฉนักร้องเรียนและบุคคลหลายกลุ่มเข้ามารีดทรัพย์ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 พ.ย. นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าสอบปากคำเพิ่มเติม 11 ผู้ต้องหากลุ่มบอสชายคดีบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ว่าการเตรียมให้การวันนี้ต้องดูว่า ผู้เสียหายมีพฤติการณ์อย่างไรที่กล่าวหา โดยจะเปิดชื่อเปิดระบบให้ดูว่า มีความเสียหายจริงหรือไม่ ส่วนจะให้การเพิ่มเติมกับดีเอสไอประเด็นใดบ้าง ยังไม่ทราบว่าดีเอสไอถามประเด็นใดหากตอบได้ก็ตอบ หากตอบไม่ได้ก็ไม่ตอบ ส่งเอกสารคำให้การไปให้ภายหลัง คาดว่าวันนี้น่าจะครบทุกประเด็น ส่วนกรณีส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรที่ดีเอสไอวางกรอบ 15 วัน ภายในวันที่ 3 ธ.ค.ทีมทนายความคงต้องขอขยายเวลาไปก่อน เพราะเอกสารมีเป็นลัง ทนายต้องเข้าออกเรือนจำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ส่งผลให้การต่อสู้คดีเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ทนายวิฑูรย์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีดีเอสไอจะเข้าไปสอบปากคำบอสพอล ประเด็นคลิปเสียงที่เป็นคู่สายสนทนากับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช หากเป็นเรื่องคลิปเสียงต้องบอกตามตรงว่า บริบทในวันนั้นพูดกันหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องการแอบอ้าง น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และการจ่ายสินบนให้ดีเอสไอ
บอสพอลยืนยันว่า น.ส.กฤษอนงค์พูดจริงตามที่ปรากฏในคลิป และยืนยันว่าไม่ใช่คลิปตัดต่อ และยอมรับเป็นสิ่งที่เขาพูดขึ้นมาเอง จบที่เราได้จ่ายเงินให้กลุ่มผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย 89 คน ส่วนที่เข้าไปแจ้งความกรณีคลิปเสียง 20 ล้านบาท ตนยังไม่ได้ให้ปากคำ เพราะ บก.ป.ยังติดคดีคลิปเสียงแอบอ้าง น.ส.จิราพร
ต่อมาเวลา 10.00 น. ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูล พร้อมคณะทำงานเดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เผยก่อนเข้าสอบปากคำเพิ่มเติม 11 บอสชายว่า ประเด็นที่จะเข้าสอบปากคำวันนี้คือ ประเด็นจากมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 15 พ.ย. เพราะพนักงานสอบสวนร่วมกันประชุมแล้วเห็นว่า มีบางประเด็นที่เรามีข้อสงสัย ต้องมาสอบเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์ของพวกเขาเอง ส่วนก่อนหน้านี้ทนายความผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์ว่า ให้ปากคำไปแล้ว 48 ชม.ในชั้นตำรวจ ต้องเรียนว่ายังมีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมทุกข้อกล่าวหา ทั้ง พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ฉ้อโกงประชาชน พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินฯ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯ
“อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ 11 บอสชายให้การปฏิเสธจะให้การชั้นศาล ผู้ต้องหาจะให้การหรือไม่ก็ได้ กรณีทนายบอสพอลจะขอขยายเวลาการยื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหา 18 บอสออกไปอีก 15 วัน รวมเป็น 30 วัน วันนี้เรามาพูดคุยกับเขาให้เข้าใจว่า ต้องการให้ดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 3 ธ.ค. เพราะดีเอสไอจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการตามกรอบเวลา และดีเอสไอจะพิจารณาเท่าที่สำนวนมีอยู่ ถ้าอยากให้การเพิ่มเติมภายหลังต้องไปยื่นพนักงานอัยการแทน เราขยายให้ได้ถึงวันที่ 3 ธ.ค.เท่านั้น เพราะเป็นกำหนดเวลาว่าจะพิจารณาพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จ” ผอ.กองคดีฮั้วประมูลกล่าว
ร.ต.อ.สุรวุฒิกล่าวว่า “ส่วนเรื่องดีเอสไอจะสอบสวนปากคำบอสพอลกรณีเป็นคู่สายสนทนากับ น.ส.กฤษอนงค์ ประเด็นกล่าวอ้างเรื่องจ่ายเงิน 10 ล้านบาทผ่านคนกลาง ทราบว่าช่วงบ่ายวันนี้คณะพนักงานสอบสวนอีกชุดเข้ามาสอบปากคำบอสพอล อีกทั้งกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มีคำสั่งให้อธิบดีดีเอสไอตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ขอเรียนว่า เบื้องต้นคณะทำงานที่อธิบดีดีเอสไอแต่งตั้ง เข้าสอบปากคำ น.ส.กฤษอนงค์ ในทัณฑสถานหญิงกลางแล้ว ให้การยืนยันตามโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก แต่ไม่ขอยืนยันในคลิปเสียง เพราะในโพสต์ยอมรับว่า มีตัวกลางเข้าไปเกี่ยวข้อง ตรวจสอบแค่ภายในหน่วยงานไม่ได้ ต้องให้บุคคลภายนอกที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่ประชาชนและสื่อมวลชนเชื่อถือเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อความเป็นกลาง”
ผอ.กองคดีฮั้วประมูลกล่าวด้วยว่า น.ส.กฤษอนงค์ให้การยืนยันตามโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า เป็นเหตุการณ์พูดคุยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากสำนวนเสร็จสิ้น น.ส.กฤษอนงค์เล็งเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องให้การเกี่ยวกับบุคคลที่สามหรือตัวกลาง ส่วนคลิปเสียงสนทนาที่รับจากสำนักข่าว คณะพนักงานสอบสวนส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจพิสูจน์แล้ว การตรวจสอบการจ่ายสินบนเทวดาในดีเอสไอ เราตรวจสอบไปแล้วก่อนหน้านี้ ยืนยันว่า ไม่มี
ร.ต.อ.สุรวุฒิกล่าวอีกว่า กรณีตัวแทนดิ ไอคอนฯ ถูกอายัดบัญชีธนาคาร เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาเพราะถูกอายัดตั้งแต่ชั้นตำรวจโดยระบบ AOC : Anti Online Scam Operation Center หรือระบบอายัดโดยอัตโนมัติ เบื้องต้นอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งว่า ต้องประชุมหารือร่วมกับตำรวจวันที่ 21 พ.ย. ให้แล้วเสร็จว่าวิธีการแก้ไขและช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและไม่เกี่ยวข้องในคดีได้อย่างไร ต้องคัดกรองว่าเป็นบัญชีธนาคารที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดจริงๆหรือคดีความผิดมูลฐาน ส่วนที่ไม่เกี่ยวเป็นเงินลงทุนธรรมดาต้องเร่งคืนให้เขา ดำเนินการโดยดีเอสไอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้เข้าสู่ฝากขังผัด 4 คดีฉ้อโกงประชาชน สามารถยื่นฝากขังต่อศาลได้ 7 ฝาก ดีเอสไอจะค้านประกันตัวยาวถึงฝาก 7 หรือไม่ เพราะทนายบอสพอลระบุว่า ถ้าช่วงฝากขังผัด 5-7 ดีเอสไอไม่ค้านประกันจะยื่นปล่อยตัวชั่วคราว ร.ต.อ.สุรวุฒิกล่าวว่า หลักการสอบสวนตามมาตรา 22 วรรคท้าย สำนวนคดีใดที่เป็นของตำรวจให้เป็นส่วนหนึ่งของดีเอสไอ ตำรวจอายัดคัดค้านไว้แล้วคงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลง
ต่อมาเวลา 15.45 น. นายวิฑูรย์ เก่งงาน เผยว่า วันนี้ผู้ต้องหาให้ปากคำแบบปฏิเสธไปก่อน แล้วค่อยส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายหลัง แต่สิ่งที่กังวลที่สุดคือ ดีเอสไอจะยุติการสอบสวนวันที่ 3 ธ.ค.เพื่อจะสรุปสำนวนส่งอัยการ ดังนั้นในส่วนของพยานที่เราเตรียมไว้ 2,000 กว่ารายต้องให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 3 ธ.ค.เช่นกัน ทางดีเอสไอจึงให้ตัวร่างบันทึกมา 1 ฉบับ เพื่อให้ตนนำไปให้บรรดาพยานกรอกรายละเอียด คงไม่โอเค เพราะบันทึกที่ดีเอสไอทำไว้มันค่อนข้างจำกัด ต้องมานั่งปรับใหม่ให้เป็นกลางๆ คราวนี้ตัวแทนของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ที่ยังคงขายของได้อยู่ เขาอยากให้การในความเป็นจริงทั้งหมด เราบอกว่ามันทำให้เราสู้คดีได้ไม่เต็มที่ ไม่เป็นธรรมกับเรา ขั้นตอนถัดไปตนคงจะไปร้องขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการแทน
นายวิฑูรย์กล่าวต่อว่า วันนี้ 11 บอสชายยังไม่ได้ให้ปากคำหรือชี้แจงเอกสารใดกับดีเอสไอ เนื่องจากเอกสารอยู่ภายนอกมีจำนวนมาก ในห้องสอบสวนของเรือนจำฯ ไม่เอื้ออำนวยต่อการแสดงเอกสารใดให้พนักงานสอบสวนดู เพราะต้องแปะกระดาษผ่านกระจก อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ต้องหาไม่เสียกำลังใจเพราะอย่างไรเมื่อพนักงานสอบสวนส่งฟ้องต่ออัยการ ต้องไปสู้คดีในชั้นศาลอยู่ดี เพียงแค่รู้สึกเซ็งว่าไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับประเทศที่มีขื่อมีแป ส่วนสภาพจิตใจของบรรดาบอสไม่ได้แย่ ต้องกัดฟันสู้ มัวแต่จิตตกไม่ได้ แล้วไม่ท้อ ต้องสู้เพื่ออิสรภาพของตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อตัวแทน เพื่อคนในอุตสาหกรรมตลาดแบบตรง ตนจะยังไม่แจ้ง ม.157 กับดีเอสไอ เพราะเข้าใจสถานการณ์ดี
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคครั้งที่ 6/2567 ก่อนการประชุม น.ส.จิราพรกล่าวว่า ที่ผ่านมามีข่าวใหญ่และเกี่ยวกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กรณีบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ทำให้ภาพลักษณ์ สคบ.ต่อประชาชนสั่นคลอน ดังนั้นภารกิจตนต้องฟื้นฟู สคบ.และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนฐานะเป็นหน่วยงานภาครัฐ เป็นที่พึ่งของประชาชน ต้องแก้ไขในสิ่งที่เป็นปัญหา แต่ข้าราชการที่เป็นน้ำดีนั้นยังมีอยู่ ต้องให้กำลังใจกัน และส่วนที่เป็นปัญหาอย่างกรณีคลิปเสียงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
ด้าน น.ส.ทรงศิริ จุมพล รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ฐานะรักษาการแทนเลขาธิการ สคบ.เผยว่า วันที่ 21 พ.ย.เวลา 10.00 น. น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือแนวทางป้องกันและปราบปรามธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ประกอบด้วย สคบ. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ส่วนกรณีที่ รมต.ประจำสำนักนายกฯสั่งการให้ สคบ.ไปตรวจสอบ 10 บริษัทที่เข้าข่ายลักษณะแชร์ลูกโซ่ สคบ.ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเชิงลึกต่อไป
“นอกจากนี้กรณี สคบ.ทำหนังสือสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงข้อกฎหมายเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงของบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ปว่า สามารถใช้อำนาจทางปกครองถอดถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองได้หรือไม่ หรือมีลักษณะขัดต่อกฎหมายมาตรา 19 ของ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง ห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการลักษณะชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายประกอบธุรกิจขายตรง หรือในการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่าย องค์คณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ จะพิจารณาวันที่ 20 พ.ย.เวลา 16.00 น.” รรท.เลขาธิการ สคบ.กล่าว
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ