“โฆษกดีเอสไอ” เผยเตรียมสรุปสำนวนดิ ไอคอน กรุ๊ป ส่งต่ออัยการคดีพิเศษ 20 ธ.ค.นี้ ส่วนประเด็นที่ทนายจะนำพยานมาพิสูจน์แก้ต่าง ได้เตรียมแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูลตามที่กำหนดเพื่อประเมินว่าพยานรายใดมีความจำเป็นต่อการสอบสวน พร้อมเตือนผู้เสียหายที่มีจำนวนมากทั่วประเทศระวังมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์สวมรอยเป็นตำรวจหรือดีเอสไอใช้คำพูดขอให้โอนเงินตรวจสอบ ย้ำเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่ติดต่อประชาชนผ่านโซเชียลหรือโทรศัพท์หา
กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ รับโอนคดี บ.ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด จากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หลังดำเนินธุรกิจขายตรงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ถูกกล่าวหาหลอกให้ลงทุนและหาลูกข่ายมาเป็นสมาชิก สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการนำดารานักแสดงชื่อดังมาร่วม โดยตำรวจ บช.ก.ได้ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหา 18 คน ตั้งแต่นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล นายยุรนันท์ หรือบอสแซม ภมรมนตรี น.ส.พีชญา หรือบอสมิน วัฒนามนตรี และนายกันต์ หรือบอสกันต์ กันตถาวร รวมถึงแม่ข่ายและผู้เกี่ยวข้องคุมตัวฝากขังเข้าเรือนจำไปก่อนหน้า หลังดีเอสไอรับโอนสำนวนได้เข้าไปแจ้งข้อหากู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯเพิ่มเติมกับ 18 บอสในเรือนจำ ขณะเดียวกัน คดียังแตกยอดออกไปเมื่อกลุ่มบอสดิ ไอคอน กรุ๊ป นำคลิปเสียงแฉนักร้องเรียนและบุคคลหลายกลุ่มเข้ามารีดทรัพย์ จนมีการดำเนินคดีหลายรายตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า ในที่ประชุมเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 ถือเป็นการประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้ไปดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย ก่อนนำมารายงานผู้บังคับบัญชามีเนื้อหาสำคัญคือ การรายงานผลการสอบปากคำผู้ต้องหาชาย 11 บอสดิ ไอคอน ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย. ในส่วนนี้ยังไม่มีผู้ต้องหารายใดส่งเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา มีเพียงบันทึกการรับทราบข้อกล่าวหาและการสอบปากคำเพิ่มเติมเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นหารือแนวทางจัดการกับคำร้องที่ยื่นขอพิจารณาถอนอายัดทรัพย์สิน มอบหมายไปยังกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศไปวางระบบงาน
พ.ต.ต.วรณันกล่าวต่อว่า คณะพนักงานสอบสวนได้วางกรอบไทม์ไลน์เตรียมสรุปสำนวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป กับพวก เพื่อส่งพนักงานอัยการเป็นวันที่ 20 ธ.ค. โดยจะสรุปสำนวนพร้อมความเห็นทางคดีในส่วนของ 18 ผู้ต้องหาลอตแรกต่อพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาเนื้อหาและพยานหลักฐาน โดยก่อนที่จะสรุปสำนวนส่งอัยการ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะต้องประชุมร่วมกันเพื่อมีมติว่าจะสั่งฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาดังกล่าวด้วยความเห็นทางคดีอย่างไรบ้าง ส่วนความคืบหน้าในคดีพิเศษที่ 115/2567 กรณีฟอกเงินทางอาญา มี ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ยังอยู่ระหว่างดำเนินการคู่ขนาน เพราะดีเอสไอต้องทำสำนวนคดีมูลฐานอย่างคดีพิเศษที่ 119/2567 ให้เรียบร้อยก่อน เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะได้เข้ากระบวนการเดินเรื่องฟอกเงินต่อไป
พ.ต.ต.วรณันยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรอบเวลาที่ดีเอสไอจะยุติการสอบสวนในคดี 18 บอสดิ ไอคอน ตรงกับวันที่ 3 ธ.ค. มติที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จในวันที่ 3 ธ.ค. ผู้ต้องหาทั้งหมด 18 ราย รับทราบแล้ว ทนายความผู้ต้องหาได้ติดต่อมายัง ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ขอนำพยานมาเขียนคำร้องว่าแต่ละรายจะขอพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดบ้าง ทราบว่ากระบวนการจะเริ่มในวันจันทร์ที่ 25 พ.ย.
โฆษกดีเอสไอกล่าวต่อว่า ดีเอสไอมีแบบฟอร์มเบื้องต้นให้พยานกรอกข้อมูลรายละเอียดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีมูลฐานก่อน รวมถึงประเด็นที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามแบบฟอร์มที่กำหนดเพื่อประเมินว่าพยานรายใดมีความจำเป็นในการสอบสวนมากน้อยเพียงใด และให้พิสูจน์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้างจึงไม่ถือว่าเป็นการตัดพยาน เพราะเป็นเรื่องของการตรวจสอบพยานหลักฐานที่จะใช้ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ดังนั้นต้องดูประเด็นที่จะใช้พิสูจน์คือเรื่องอะไร และเมื่อกรอกประเด็นครบถ้วนแล้วจะได้มาพิจารณาคำร้องเหล่านี้ว่ามีข้อเท็จจริงมีพยานหลักฐานพิสูจน์ประเด็นความบริสุทธิ์ในเรื่องอะไรบ้าง รวมทั้งสอบใครบ้าง
พ.ต.ต.วรณันกล่าวต่อว่า ประการสำคัญอีกเรื่องคือ กรณีที่สำนักงาน ปปง.ได้ประกาศเปิดรับคำร้อง ขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในคดีดิ ไอคอน กำหนดระยะเวลา 90 วัน ให้ผู้เสียหายในคดีได้ยื่นคำร้องตามช่องทางที่กำหนดไว้ ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.67-17 ก.พ.68 ดีเอสไอเห็นว่าควรจะขอความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์กล่าวโทษหรือแจ้งความดำเนินคดี ให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ ภายในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหายเอง เนื่องจากเมื่อมีการแจ้งความเสร็จสิ้นแล้ว ดีเอสไอจะมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังตำรวจอีกฉบับ คือขอให้ตำรวจที่รับแจ้งความ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจนครบาล ตำรวจสอบสวนกลาง หรือตำรวจภูธรให้ออกหลักฐานรับแจ้งความตามแบบฟอร์มที่ดีเอสไอได้รับการประสานว่าสำนักงาน ปปง. ประสงค์ ต้องการข้อความในลักษณะนี้เพื่อให้ประชาชนได้เอกสารลงบันทึกประจำวันและใช้ยื่นต่อสำนักงาน ปปง.ได้ด้วย จะได้เป็นการช่วยคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในคราวเดียว โดยหนังสือขอความร่วมมือนี้จะส่งถึง ตร. ภายในวันที่ 25 พ.ย.
พ.ต.ต.วรณันยังกล่าวอีกว่า ฝากแจ้งเตือนไปยังผู้เสียหายกรณีดิ ไอคอน ที่มีผู้เสียหายจำนวนมากทั่วประเทศ ประชาชนทุกรายที่เป็นผู้เสียหายในคดีนี้ให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่จะโทรศัพท์ติดต่อไปยังท่านโดยตรง หรือ โทร. แล้วเพิ่มเพื่อนในไลน์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือดีเอสไอในคดีขอตรวจสอบเรื่องการฟอกเงินแล้วใช้คำพูดลักษณะข่มขู่ทำให้หวาดกลัว จากนั้นอ้างตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคาร ออกอุบายให้ท่านโอนเงินไปยังบัญชีปลายทางที่แอบอ้าง หรือขอให้เดินทางไปยังหน่วยงานราชการใดนั้น ขอเน้นย้ำว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตัวจริง แม้จะมีการนำเอารูปภาพของผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษมาใช้แอบอ้าง ทั้งนี้ ตรวจสอบและเเจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนดีเอสไอ โทร.1202 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะไม่ติดต่อประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย หรือโทรศัพท์หาประชาชน
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ