“โฆษกดีเอสไอ” เผย ได้รับคลิปเสียง “เจ๊พัช กฤษณงค์” อ้างจ่ายเงิน 10 ล้านบาทแล้ว อยู่ระหว่างเข้ากระบวนการตรวจพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญ เตรียมขออนุญาตทัณฑสถานหญิงกลาง เข้าสอบปากคำ “เจ๊พัช” ในเรือนจำฯ ต้นตอคำพูดพาดพิงหน่วยงาน – เร่งสอบปากคำแชร์ลูกโซ่ 11 บอสใหญ่ “ดิไอคอน”
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ผู้แทนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางไปรับมอบหลักฐานคลิปเสียงสนทนาของ น.ส.กฤษณงค์ กับชายรายหนึ่ง โดยมีการกล่าวอ้างถึงการจ่ายเงิน 10 ล้านบาทแก่ดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะได้นำส่งคลิปเสียงเข้ากระบวนการตรวจพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จากนี้หลังได้ข้อมูลแล้วทราบว่าวันนี้ทางดีเอสไอจะมีการเข้าไปประสานกับทางทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องด้วยขณะนี้ผู้ต้องหาเพิ่งเข้าไปภายใน และอยู่ระหว่างเริ่มต้นการกักโรคโควิด-19 จำนวน 5 วัน หากพนักงานสอบสวนจะเข้าไปสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ก็จะต้องประสานงานกับทางทัณฑสถานเพื่อขออนุญาตก่อน หากราชทัณฑ์อนุญาต ดีเอสไอก็จะเข้าสอบปากคำวันนี้เลย และที่ต้องสอบสวน น.ส.กฤษณงค์ ก่อนบอสพอล ก็เพราะว่าเจ้าตัวเป็นคนพูดประโยคดังกล่าว รวมทั้งพนักงานสอบสวนจะได้สอบประเด็นอื่น ๆ คู่ขนานไปด้วยให้เร็วที่สุด ส่วนประเด็นที่จะสอบปากคำ น.ส.กฤษณงค์ คือ ข้อเท็จจริงที่พูดในคลิปเสียงสนทนา มีการกล่าวอ้างใด ๆ บ้าง ซึ่งต้องสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริง
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวถึงการสอบปากคำ 11 บอสดิไอคอน ว่า สำหรับการเตรียมเข้าไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมแก่บรรดา 11 บอสชายภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 20-21 พ.ย. เนื่องมาจากครั้งที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ แต่ทางผู้ต้องหาผู้ชายไม่ได้มีการให้การใด ๆ โดยประสงค์ขอยื่นเป็นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และขอยื่นบัญชีรายชื่อพยาน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองแทน แต่จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีผู้ต้องหารายใดส่งเอกสารหรือส่งประเด็นที่ต้องการให้ดีเอสไอไปพิสูจน์ ทำให้ในที่ประชุมเมื่อวันที่ 15 พ.ย. คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีมติร่วมกันว่าควรจะเข้าไปสอบสวนปากคำบรรดา 11 บอสชายอีกครั้ง เพื่อให้มีถ้อยคำให้การและพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนคดี
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหามีเพียงการขอเอกสารเพื่อไปใช้ในการต่อสู้คดี เช่น คำร้องฝากขังตั้งแต่ผัดแรก เนื่องจากผู้ต้องหาบางรายมีการเปลี่ยนทนายความ ทั้งนี้ จะได้มีการสอบสวนปากคำบอสพอลในประเด็นที่เป็นคู่สายสนทนาในคลิปเสียงกับ น.ส.กฤษณงค์ เรื่องการจ่ายเงิน 10 ล้านบาทอีกด้วย
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ดีเอสไอจะสอบสวนปากคำบรรดา 11 บอสชายดิไอคอน วันที่ 20-21 พ.ย. ก็ยังคงเป็นประเด็นเดิมจากการแจ้งข้อกล่าวหาคดีแชร์ลูกโซ่ หรือ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 โดยผู้ต้องหาจะมีการอ้างถึงพยานหลักฐานใดหรือไม่ จะแก้ต่างอย่างไรว่าธุรกิจบริษัท ดิไอคอน ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ เพราะหลักการทำงานของดีเอสไอ ใช้หลักกฎหมายเคร่งครัดโดยการฟังความสองฝ่าย
ส่วนสาเหตุที่ดีเอสไอไม่ต้องสอบสวนปากคำเพิ่มเติมกับบรรดาบอสหญิงทั้ง 7 รายในทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากทั้งหมดได้มีการให้ถ้อยคำหมดแล้ว แตกต่างจากฝั่ง 11 บอสชายที่ไม่ให้การใด ๆ สำหรับกรณีการยื่นคำร้องของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษต่อศาลอาญา เพื่อขยายเวลาการฝากขัง 18 ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอน เป็นผัดที่ 4 นั้น โดยในส่วนของ 17 บอสดิไอคอน ยกเว้นบอสพอล จะได้ดำเนินการในวันที่ 21 พ.ย. ส่วนวันที่ 22 พ.ย. จะได้ฝากขังบอสพอลต่อศาล เพราะบอสพอล เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ช้ากว่าบอสอื่น ๆ 1 วัน ซึ่งได้มีการมอบหมายให้ ผอ.ส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 2 รับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอน
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ในวันที่ 20 พ.ย. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมกับตนจะได้มีการเชิญทีมคณะทำงานไปหารือกับอธิบดีอัยการคดีพิเศษ เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารคดี และประสานว่าดีเอสไอได้ดำเนินการไปอย่างไรแล้วบ้าง เพื่อจะได้มีข้อหารือว่าจะทำงานร่วมกันอย่างไรต่อไป จะได้ทำให้การรับไม้ต่อในชั้นพิจารณาคดีของอัยการมีความรวดเร็ว ส่วนในวันที่ 20-21 พ.ย. ในการสอบสวนปากคำ 11 บอสชายภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะมี ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เป็นผู้ประสานการปฏิบัติในรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ยธ 0812/3871 ลงวันที่ 18 พ.ย. ส่งถึงนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของผู้ต้องหาที่ 1-19 เรื่อง ขอความร่วมมือร่วมฟังการสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ตามที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ยธ 0812/3844 ลงวันที่ 8 พ.ย. ขอความร่วมมือประสานงานทนายความเข้ารับฟังการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี มีผู้กล่าวหาบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก รวม 19 คน ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และฐานร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ที่เรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อวันที่ 11 พ.ย.แล้วนั้น เนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีความจำเป็นต้องสอบสวนปากคำผู้ต้องหาที่ถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 20 ถึงวันที่ 21 พ.ย. เวลา 10.00 น. – 16.00 น. จำนวน 11 คน
ประกอบด้วย 1.นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล 2.นายจิระวัฒน์ แสงภัคดี หรือบอสแล็ป 3.นายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ 4.นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือบอสหมอเอก 5.นายนันท์ธรัฐ
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ