คดี “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” ใหญ่ยักษ์จริง

กลบทุกข่าวสาร ทั้งสังคม การเมือง เศรษฐกิจ?

เพราะมันมีผู้เดือดร้อนมหาศาลผุดขึ้นมาต่อเนื่อง บางคนเสียใจเสียดายเข้าตาจน  ตัดสินใจสังเวยความผิดพลาดด้วยชีวิต เพราะไปหลงเชื่อคนรูปลักษณ์ดีมีสกุล ดูร่ำรวย ไปจนถึงดารา นักร้อง หรือผู้มีชื่อเสียงในสังคม!

การดำเนินธุรกิจขายตรงตามที่ “บอสพอล” หรือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ให้คำนิยามไว้ ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปลายปี 2561

แต่ทำไมเสียงของผู้เสียหายกลับเพิ่งมาดังเอาตอนนี้?

หลังจาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. รับเผือกร้อน สั่งการให้ตำรวจ บก.ปคบ. ดำเนินการตรวจสอบ สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานมาได้ไม่ถึงสัปดาห์

กลับเริ่มมีเสียงโวยวายว่า ตำรวจทำงานช้า!

อันนี้ขอชี้แจงแทนชุดคลี่คลายคดีหน่อย เพราะอาชญากรรมเดี๋ยวนี้มันไม่ได้มีแต่ขาวกับดำให้เห็นชัดๆ มันมีสีเทาๆปะหลับปะเหลือกอยู่เต็มไปหมด

อย่างบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป ขออนุญาตเปิดบริษัทขายตรงถูกต้อง แต่หลังจากนั้นจะไปดำเนินการอะไร อยู่ในความดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ต้องตรวจสอบ?

ประเด็นคือ คดีนี้มีผู้เสียหายมหาศาล เท่าที่ “บอสพอล” เปิดเผยตัวเลขสมาชิกระดับต่างๆออกมา ก็หูตาแหกกันแล้ว เพราะมีสมาชิกที่เสียเงินกว่า 3.6 แสนคน มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท!

ข้อมูลสำคัญที่จะเอาผิดไม่ได้เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ มันต้องเอาไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่า มันเข้าข่ายความผิดฉ้อโกงตามที่ผู้เสียหายแจ้ง หรือเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ตามที่ตำรวจตั้งประเด็น?

อยากให้สังคมใจเย็นๆ การเอาคนเข้าคุกมันไม่หมู!

ให้เวลารวบรวมหลักฐานให้แน่น เอาคนติดคุกให้ได้ก่อน เผื่อจะตามเงินกลับคืนมาได้บ้าง?

สหบาท

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม