“ดนุพร” ชี้ เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี กระแสสูสี หลังพรรคประชาชนระดมแกนนำช่วยปราศรัย เชื่อ “ทักษิณ” ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง เรียกคะแนนนิยมกลับมา มองเป็นการวัดฐานเสียงเพื่อไทยใหม่ ลั่น อยากชนะขาด ขอให้รอดูอาจเห็น “อิ๊งค์” ควงพ่อลงพื้นที่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 นายดนุพร ปุณณกันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจของ จ.อุดรธานี ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) คะแนนผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ยังตามหลังผู้สมัครของพรรคประชาชน (ปชน.) ว่า ตนมองการเลือกตั้งนายก อบจ. เหมือนการเลือกตั้งทั้งจังหวัด แน่นอนว่าเรามีทั้งพื้นที่ที่เราแข็งแรงและยังไม่แข็งแรง ถือว่าเป็นเรื่องปกติของการเลือกตั้ง ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อุดรธานี มีทั้งหมด 10 คน พรรคเพื่อไทยได้ สส. 7 คน เรายังมีพื้นที่ที่ยังอ่อนอยู่ 3 เขต สิ่งที่เราต้องทำในระยะเวลาที่เหลืออยู่ 1 สัปดาห์กว่าคือการลงพื้นที่และนำนโยบายของผู้สมัครไปถึงประชาชนให้มากที่สุด
ทางด้านคำถามว่าการที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงมาช่วยหาเสียงในครั้งนี้ ประเมินแล้วใช่หรือไม่ เป็นเพราะคะแนนที่ยังตามหลังอยู่ นายดนุพร ตอบว่า ไม่ใช่ประเด็นนั้น แต่การที่นายทักษิณ มาลงพื้นที่เป็นเพราะอยากช่วย แน่นอนว่า จ.อุดรธานี เมื่อก่อนเคยเป็นของพรรคเพื่อไทยทั้งจังหวัด แต่ตอนนี้เราเสียไป 3 พื้นที่ ฉะนั้นคิดว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญที่จะวัดฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยใหม่ วันนี้คนในพรรคก็ระดมสรรพกำลังมาช่วยใน จ.อุดรธานี เพื่อที่หากชนะก็อยากให้ชนะขาด จะได้ไม่มีข้อครหา และเชื่อว่าการที่ นายทักษิณ มาจะเป็นกำลังใจให้คนทำงาน รวมถึงพี่น้องชาวอุดรธานี ก็ไม่ได้ฟังนายทักษิณ ปราศรัยมาเกือบ 20 ปี เชื่อว่าวันนี้เป็นวันดีๆ อีก 1 วัน พี่น้องชาวอุดรธานีจะได้ฟังนายทักษิณ ปราศรัย
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนเตรียมระดับแกนนำมาปราศรัย ทำให้การแข่งขันดูเหมือนจะดุเดือด นายดนุพร ระบุว่า เป็นการเลือกตั้งที่สูสี หากเรานำตัวใหญ่ลงมาแต่พรรคเขาไม่ได้นำคนระดับหัวหน้าพรรคลงมา ก็ดูเหมือนจะเป็นการแข่งขันที่ไม่สมน้ำสมเนื้อเท่าไหร่ และตอนนี้เขาก็ระดมสรรพกำลัง ตั้งแต่หัวหน้าพรรคประชาชน อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล มีระดับหัวหน้าพรรคมาถึง 3 คน ตนมองว่าการแข่งขันครั้งนี้หากใครชนะก็สะท้อนได้ว่าวันนี้เราทำงานเต็มที่ และคิดว่าทุกคนจะยอมรับผลการเลือกตั้ง
ส่วนคำถามจะถือว่าเป็นสนามที่วัดคะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายดนุพร เผยว่า ทุกสนามไม่ว่าจะเป็นการเลือกนายก อบจ. การเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก ก็เป็นการวัดกระแสความนิยม ซึ่งไม่ใช่แค่ของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นความนิยมของรัฐบาลด้วยซ้ำ การเลือกตั้งทุกที่มีความสำคัญ นี่จึงเป็นเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญในการลงพื้นที่ สำหรับความคาดหวังว่าการที่ นายทักษิณ มาลงพื้นที่จะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ใช่หรือไม่ นายดนุพร เชื่อว่าได้ เป็นบวกมากกว่าเป็นลบ ทั้งนี้ แม้คนที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีจะไม่เยอะ แต่ประชาชนกลับตื่นตัวที่จะมาร่วมฟังปราศรัยเหมือนการเลือกตั้งใหญ่ รวมถึงการที่ นายทักษิณ มาลงพื้นที่ทำให้การเลือกตั้งนายก อบจ. ในครั้งนี้ค่อนข้างที่จะคึกคัก เหมือนเป็นการเชิญชวนให้ทุกคนไปใช้สิทธิ์ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
เมื่อถามอีกว่าพรรคเพื่อไทยได้วางตารางให้ นายทักษิณ ไปลงพื้นที่ใดอีกหรือไม่ นายดนุพร ตอบว่า เท่าที่ทราบมามีแค่วันที่ 13-14 พฤศจิกายน 2567 ที่จะมีการปราศรัยที่ทุ่งศรีเมือง และเมื่อมีการเลือกตั้งใหญ่ทุกครั้งทุ่งศรีเมืองก็จะเป็นเหมือนไฮไลต์ของ จ.อุดรธานี ฉะนั้นจึงมองว่าวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นไฮไลต์ที่จะมีคนมาร่วมฟังปราศรัยเป็นหมื่นคนอีกครั้ง ส่วนการลงพื้นที่ในจังหวัดอื่นตนยังไม่ทราบ ยังตรวจสอบอยู่ และต้องบอกว่า นายทักษิณ เป็นแค่ผู้ช่วยหาเสียง ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ก็ต้องรอดู เพราะคณะกรรมการบริหารพรรคยังเคาะหาตัวผู้สมัครนายก อบจ. ในนามพรรคไม่ครบ ฉะนั้น ต้องรอให้คณะกรรมการบริหารพรรคเคาะก่อน ส่วนจังหวัดใดที่จะเชิญ นายทักษิณ ไปเป็นผู้ช่วยหาเสียงก็ต้องประสานมาอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นคำถามว่าจะมีพื้นที่ใดหรือไม่ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมาร่วมช่วยหาเสียงด้วย นายดนุพร ระบุว่า ต้องดูภาระงานของนายกรัฐมนตรี เพราะวันธรรมดาในช่วงกลางวันจะหาเสียงไม่ได้ ซึ่ง น.ส.แพทองธาร จะลงพื้นที่ได้ในช่วงหลังเลิกงานหรือวันเสาร์-อาทิตย์ เมื่อถามย้ำว่าจะมีโอกาสหรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า อาจจะมีหากโอกาสและจังหวะเวลามันได้ ก็เป็นไปได้ที่ น.ส.แพทองธาร และนายทักษิณ จะมาลงพื้นที่พร้อมกัน ต้องรอดู.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ