นิทาน ฝันที่เป็นจริง เรื่องที่แม่เล่าให้ฟังสมัยยังเล็กๆ คือเรื่อง “ท้าวแสนปม” เชื่อกันว่าเป็น “ท้าวอู่ทอง” เปิด นิทานกริมม์ เล่ม 6 (ยาค็อบและวิลเฮล์ม กริมม์ เขียน อาษา ขอจิตต์เมตต์ แปล ต้นอ้อ 1999 จำกัด พิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ.2542) เจอเรื่องชายหลังค่อม… ผมไม่อยากคิด ฝรั่งลอกของเราหรือเราลอกฝรั่ง อ่านต่อไปดีกว่า

นานมาแล้ว พระราชาพ่อหม้ายผู้หนึ่งอยู่กับลูกสาวสวยคนเดียว ต่อมาวันหนึ่งเกิดเรื่องฉงนสนเท่ห์คนทั้งเมือง ลูกสาวพระราชาท้อง เหตุที่ฉงนกันมาก ก็เพราะเธอท้องโดยไม่เคยรู้ว่าพ่อเด็กหน้าตาเป็นอย่างไร

ถึงเวลาลูกสาวพระราชาก็คลอดออกมาเป็นชาย พระราชาคิดหาวิธีหาพ่อให้หลาน…พาเจ้าหญิงเข้าโบสถ์ เอามะนาวใบหนึ่งยัดใส่มือ แล้วคัดเลือก ชายโสดหน้าตาดีๆเรียงหน้าเข้าไป

แต่คนของพระราชาน่าจะเผลอ ปล่อยชายไม่สมประกอบ “ไอ้ค่อม” ปะปนเข้าไปด้วย

แม้พระราชาจะกันท่าไม่ให้ไอ้ค่อม เข้าไปใกล้หลาน…แต่เมื่อ หลานไม่ยอมรับมะนาว จากมือชายที่ถูกคัดเลือกคนสุดท้ายก็จึง

เป็นคิวของ “ไอ้ค่อม” ทุกคนในโบสถ์อึ้ง เมื่อหลานพระราชารับมะนาวจากมือไอ้ค่อม

เจ้าหญิงเองถึงนิ่งจังงัง ไม่คิดว่าจะได้ว่าที่สามีอัปลักษณ์ แต่พระราชายิ่งไปกว่า ทรงพิโรธเป็นฟืนเป็นไฟสั่งให้จับไอ้ค่อม เจ้าหญิง รวมถึงหลานชาย ใส่ถังไม้ขนาดใหญ่แล้วยกไปโยนลงทะเล

เมื่อถังไม้ลอยไปตามยถากรรมกลางทะเลลึก เจ้าหญิงซึ่งทรงร้องไห้ตลอดเวลาก็แผดเสียงใส่ไอ้คอม

“แก ไอ้สัตว์ประหลาดหลังโก่ง แกไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลย ทำไมสะเออะเข้าไปวุ่นวายในโบสถ์” “ใครว่าฉันไม่เกี่ยว” ไอ้ค่อมที่นิ่งเงียบเป็นนานพูด “ฉันนี่ล่ะ มีส่วนสำคัญที่สุด

ฉันนี่เองเป็นคนสวดภาวนาให้เจ้าหญิงมีลูก ถ้าไม่รู้ก็จงรู้สิ่งไหนฉันภาวนา สิ่งนั้นจะเกิด”

“โม้ ไม่เข้าเรื่อง” เจ้าหญิงว่า “ไหน ถ้าแน่จริง แกภาวนาขอให้มีของกินขึ้นที่นี่ เดี๋ยวนี้”

สิ้นคำไอ้ค่อมภาวนา มันฝรั่งต้มอ่างใหญ่ก็ปรากฏตรงหน้า ความจริงเจ้าหญิงอยากได้อาหารดีๆในวัง แต่เมื่อหลุดปากพูด ก็คว้ามันฝรั่งต้มกินแก้หิวไปกับเขา

อิ่มแล้ว เจ้าหญิงอยากมีเรือชนิดดีๆ ถังไม้ก็เปลี่ยนเป็นเรือโอ่อ่า เครื่องประดับหรูหรา มีเจ้าหน้าที่ทุกแผนกพร้อมพรัก กัปตันเรือเบนหางเสือเข้าหาฝั่ง เมื่อขึ้นจากเรือ ไอ้ค่อมก็ภาวนาขอปราสาทหลังใหญ่

เจ้าหญิงจูงมือลูกเข้าไปอยู่แล้ว ไอ้ค่อม ก็ร้องว่า “คราวนี้ ฉันขอเป็นเจ้าชายรูปหล่อ”

ชายหลังค่อมก็หายไป กลายเป็นเจ้าชายใบหน้าคมคาย ร่าง

สูงโปร่งสง่างาม เจ้าหญิงไม่รังเกียจเขาอีกต่อไป ต่างอยู่ด้วยกันในปราสาทหลังนั้นด้วยความสุขหลายปี

แล้วก็ถึงวันนั้น พระราชาผู้เฒ่า ขี่ม้าหลงทางผ่านเข้ามา พระราชาจำลูกสาวไม่ได้ แต่เจ้าหญิงจำพระองค์ได้ สั่งจัดอาหารชั้นเยี่ยมเลี้ยงดู ขณะพระราชาออกปากลา เจ้าหญิงก็แอบยัดถ้วยทองคำใส่กระเป๋า

พระราชาขี่ม้าจากไปไม่นาน คนของเจ้าหญิงก็ตามไปจับ…ค้นเจอด้วยทองก็แจ้งข้อหาขโมย คุมตัวกลับมาหาเจ้าหญิง พระราชาปฏิเสธไม่ได้ขโมย แต่ก็บอกไม่ได้ ถ้วยทองมาอยู่ในกระเป๋าพระองค์ได้อย่างไร?

“เรื่องนี้ พิสูจน์ชัดว่า อย่าวินิจฉัยคนจากรูปร่างหน้าตา” เจ้าหญิงบอกความจริงกับพ่อ

พระราชาผู้เฒ่าดีใจมากก็ชักชวนลูกสาว ลูกเขย และหลานชาย ไปอยู่ด้วยในพระราชวัง และนิทานก็จบลงตรง…เมื่อถึงเวลาที่พระราชาผู้เฒ่าตาย ไอ้ค่อมลูกเขยก็ได้เป็นพระราชาแทน

อ่านนิทานได้ความสุขสมอารมณ์หมาย ได้ง่ายๆอย่างนี้แหละ!

แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงกว่าเจ้าหญิงจะได้พระสวามีเป็นเจ้าชายรูปหล่อ กว่าโชคชะตาจะชักพาให้กลับเข้าเป็นใหญ่ในพระราชวัง หรือ เจ้าหญิงฉลาดน้อย จะกลายมาเป็นเจ้าหญิงผู้ฉลาดเฉียบแหลม รู้เท่าทันเกมการเมืองทุกอย่างก็ยากนักหนา

เมื่อเรื่องจริงเป็นเช่นนี้ พวกเราก็คงจะต้องฟังนิทาน ฝันที่เป็นจริงกันต่อไป.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม