ลูกค้าเดินทางนำทองมาขายคืนยังแน่นร้านแม่ตั๊ก ด้านสาวจากสระบุรี มาถึงตั้งแต่ตี 2 ยอมรับเสียความรู้สึก หลังผู้เป็นแม่นำทองไปจำนำที่ร้านทองเจ้าอื่น ปรากฏว่าตรวจสอบแล้วพบว่าทองไม่ได้มาตรฐาน แถมโดนขู่ว่าจะเอาตำรวจมาจับ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ร้านเพชรทองเคทูเอ็น หรือ ร้านทองแม่ตั๊ก เลขที่ 717/111-112 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ มีประชาชนทยอยมานั่งรอที่เต็นท์หน้าร้านทองแม่ตั๊ก เพื่อนำทองคำมาขายคืนให้แก่ร้านทองแม่ตั๊กราว 300 คน ขณะที่ร้านยังคงปิดอยู่ โดยมีการติดป้ายประกาศไว้ระบุว่า “เปิดรับบัตรคิว 200 คิว ตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยรับลูกค้าคืนสินค้าที่เป็นปี่เซียะเท่านั้น” โดยมีประชาชนได้ลงชื่อใส่สมุดพร้อมเบอร์โทรศัพท์เพื่อรอรับบัตรคิว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.โชติกา เสาศิลา อายุ 32 ปี ผู้นำทองคำมาขายคืน กล่าวว่า เดินทางมาจากจังหวัดสระบุรี มาถึงที่หน้าร้านทองตั้งแต่เวลา 02.00 น. โดยอาศัยนอนในรถ ได้ลงชื่อรอรับบัตรคิวลำดับที่ 28 ตนซื้อทองคำปี่เซียะผ่านการไลฟ์สดของแม่ตั๊กไปเมื่อประมาณปี 2563 ซื้อสร้อยข้อมือทองคำปี่เซียะ ราคาประมาณ 30,000 บาท เป็นของขวัญวันเกิดให้แก่มารดา
ต่อมามารดาจำเป็นต้องใช้เงินโดยนำทองไปจำนำ ทางร้านทองได้ตรวจสอบแล้วพบว่าทองไม่ได้มาตรฐาน ขู่ว่าจะเอาตำรวจมาจับ ทำให้มารดาตนรู้สึกตกใจ ทำให้ตนเสียความรู้สึก แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดร้องเรียน เนื่องจากยังไม่มีกระแสข่าว แต่พอเกิดข่าวขึ้นมามีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจำนวนหลายรายจึงนำทองมาขายคืน พร้อมนำของแถมเป็นรูปเทพเจ้ามาคืนด้วย อยากได้เงินคืนครบจำนวน เนื่องจากตอนที่ซื้อได้ซื้อในราคาเต็ม เวลาคืนก็อยากได้เต็มจำนวน จึงจะไม่ติดใจดำเนินคดี
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ