ชาวบ้านมั่นใจ ท่าน ว.วชิรเมธี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอนฯ หลังทนายดังขู่จะฟ้อง พร้อมตำหนิไม่ควรเที่ยวไปหาเรื่องคนอื่น

วันที่ 14 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่ง ถึงประเด็นจะฟ้องพระชื่อดังอย่าง พระเมธีวชิโรดม หรือที่รู้จักกันในชื่อ ท่าน ว.วชิรเมธี ที่ถูกดึงมาเกี่ยวข้องกับประเด็นร้อน กรณีบริษัท THE iCON GROUP (ดิไอคอนกรุ๊ป)

โดยให้เหตุผลว่า ท่าน ว.วชิรเมธี มีส่วนทำให้คนเชื่อ เพราะว่าท่านเป็นพระท่านผู้ใหญ่ แล้วไปพูดว่าถ้ามาทำงานกับบริษัทนี้ ขายตรง ชั่วข้ามคืนจะกลายเป็นเศรษฐี และยังติว่าการเป็นพระ ต้องสอนให้คนลดละกิเลส ไม่ใช่สอนให้คนโลภ แล้วการเป็นพระชื่อดัง คำพูดคำสอนของมีส่วนทำให้คนเชื่อได้ง่ายขึ้น ทำให้มันสะดวกกับการที่ไปเอาเงินเอาทองกับคน จึงไม่ควรละเว้นคนใส่จีวรหรือเครื่องแบบ หรือนักการเมือง เพราะรัฐธรรมนูญการบังคับใช้กฎหมายต้องเสมอภาค เพราะที่ผ่านมาเจ้าอาวาสเงินทอนก็ติดคุกกันมาเยอะจนกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงนั้น

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พบว่าพระเมธีวชิโรดม ไปกิจธุระที่ประเทศญี่ปุ่น และคาดว่าจะเดินทางกลับมาประเทศไทยในช่วงค่ำวันที่ 15 ต.ค. ที่จะถึงนี้

โดย นางกนกวรรณ จันทร์ประเสริฐ อายุ 70 ปี ชาวบ้าน ม.13 ต.ห้วยสัก เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏคลิปที่ท่าน ว.วชิรเมธี ไปเทศน์ให้พนักงานของบริษัทขายตรงที่อื้อฉาวในขณะนี้ ในความคิดส่วนตัว ตนไม่เชื่อว่า ท่าน ว.จะไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว ตามปกติท่านจะเป็นคนอัชฌาสัยดี เจอใครก็จะเข้าไปพูดคุย ใครมาขอพบท่านจะร่วมพูดคุย หรือถ่ายรูปด้วยตลอด เวลาที่ทางไร่หรือหมู่บ้านมีงาน ท่านก็จะเข้ามาพบปะพูดคุยทักทายกับชาวบ้าน

ส่วนประเด็นที่จะมีทางทนายยื่นฟ้องท่าน ในประเด็นที่ไปเกี่ยวข้องกับบริษัทขายตรงที่อื้อฉาวในขณะนี้ ตนว่าไม่สมควร ทนายควรจะอยู่ในส่วนของทนาย ไม่ควรจะเที่ยวไปหาเรื่องคนนั้นคนนี้ ตนไม่เชื่อว่าท่านจะเกี่ยวข้อง เพราะท่านจะดีกับทุกคน ใครมาคุยด้วยก็คุย ใครมาขออะไรก็ให้.