จับแล้ว ร.ต.อ.หัวหน้าแก๊งโจรลักเครื่องจักรท้องที่บางละมุง จ.ชลบุรี ชุดสืบสวนตามแกะรอย พบหนีไปกบดานบ้านญาติในตัวเมืองอุดรธานีประสานทีมสืบสวนภาค 4 บุกล็อกตัวไว้ได้ ผู้การชลบุรีสั่งให้ออกราชการทันที ขณะที่ตำรวจขยายผลตามจับลูกน้องผู้กองนอกแถวได้อีก 1 คน เป็นคนลากรถบดถนนไปขายร้านของเก่า สภาพถูกหลอมเหลือแต่เครื่องยนต์ ด้านเจ้าของโรงงานผู้เสียหายวอนเอาผิดคนรับซื้อของโจรด้วย
จากคดีฉาวโฉ่วงการตำรวจ กรณีพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ออกหมายจับ ร.ต.อ.ไอศูรย์ ดาทอง หรือผู้กองยา อายุ 41 ปี รอง สว.สส.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่โดนคำสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการ ภ.จ.ชลบุรี หลังถูกกลุ่มผู้ต้องหาแก๊งลักทรัพย์ซัดทอดเป็นหัวหน้าสั่งให้เข้าไปโจรกรรมเครื่องจักรขนาดใหญ่และหม้อแปลง ไฟฟ้ามูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท ในโรงงานรับซื้อของเก่าบริษัทเปเปอร์มิ้นท์ หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.ไอศูรย์ ไหวตัวหลบหนี
ล่าสุดตำรวจได้ตัวผู้กองหัวหน้าแก๊งโจรกรรมรายใหญ่แล้ว เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 14 ต.ค. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ประสานตำรวจสืบสวน กก.1 บก.สส.ภ.4 นำโดย พ.ต.ท.หญิงทัศธนาวดี หินพรหม สว.กก.1 และ ร.ต.อ.เขมวัฒน์ พฤกษติกุล รอง สว.กก.1 นำกำลังเข้าจับกุม ร.ต.อ.ไอศูรย์ หรือผู้กองยา หัวหน้าแก๊งลักทรัพย์ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ 544/2567 ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 515/5 หมู่ 4 ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอาศัยบ้านญาติ คุมตัวไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองอุดรธานี จากนั้นนำไปมาสอบสวนที่ กก.1 บก.สส.ภ.4 เบื้องต้น ร.ต.อ.ไอศูรย์ยอมรับสารภาพ แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ก่อนประสานพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง มารับตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม
ขณะที่ช่วงสาย พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธปรีชา รอง ผกก.ป. รรท.ผกก.สภ.บางละมุง พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางละมุง ร่วมกับ พ.ต.ท.พีระวัฒน์ วงศ์ทอง สว.สส.ภ.จ.ชลบุรี นำกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามทรัพย์สินที่คนร้ายนำไปขายตามโรงรับซื้อของเก่าต่างๆ กระทั่งได้หลักฐานสำคัญเป็นภาพกล้องวงจรปิดคนร้ายนำรถบดสั่นสะเทือน หรือรถบดถนนมูลค่า 3.5 ล้านบาทที่โจรกรรมมาจากโรงงานดังกล่าวบรรทุกใส่รถเทรเลอร์ไปขายในโรงรับซื้อของเก่าในพื้นที่ ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตำรวจตามไปตรวจสอบรถบดของกลางพบว่า ถูกชำแหละแยกชิ้นส่วนนำไปหลอมเป็นเหล็กเหลือเพียงเครื่องยนต์เท่านั้น
สอบถามเจ้าของโรงรับซื้อของเก่า ให้การกับตำรวจอ้างว่า นายอาร์ต คนรู้จักเป็นผู้ติดต่อนำรถบดถนนเข้ามาขายบอกว่าเป็นรถบดใช้การไม่ได้ ไปรับซื้อมาจากโรงงานร้างแห่งหนึ่ง ด้วยความที่รู้จักกันตัดสินใจรับซื้อไว้ ขนาดของรถบดมีน้ำหนักประมาณ 1 ตัน ตกลงรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 10 บาท รวมเป็นเงิน 35,000 บาท
ต่อมาชุดสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมนายมนตรี พรประเสริฐ อายุ 43 ปี ลูกน้องของ ร.ต.อ.ไอศูรย์ ได้ที่บ้านใน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ยึดรถกระบะนิสสัน สีขาว ทะเบียน บล 5305 ลพบุรี และเทรเลอร์ที่ใช้ลากจูงบรรทุกรถบดสั่นสะเทือนไปขายร้านรับซื้อของเก่า เบื้องต้นนายมนตรีให้การรับสารภาพว่า ได้รับคำสั่งจาก ร.ต.อ.ไอศูรย์ หรือผู้กองยา ให้ลากรถบดเข้าไปขายที่โรงรับซื้อของเก่าดังกล่าว ได้ส่วนแบ่งมา 10,000 บาท โดยไม่รู้ว่ารถบดถูกขโมยมา เพราะผู้กองยาอ้างว่าเป็นรถของเก่าที่เหมาซื้อมา
พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธปรีชา รอง ผกก.ป.รรท.ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจติดตามจับกุมตัวการใหญ่และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ได้แล้ว 11 คน รวมถึงผู้กองยา แต่การสืบสวนสอบสวนยังไม่จบแค่นี้ ชุดสืบสวนยังเดินหน้าไล่ล่าแกะรอยเส้นทางของทรัพย์สินที่คนร้ายนำไปขาย เชื่อว่าเครือข่ายผู้กองยาเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก. ภ.จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจอยู่ระหว่างนำตัว ร.ต.อ.ไอศูรย์กลับมาสอบปากคำที่ สภ.บางละมุง ท้องที่เกิดเหตุ เนื่องจากตามแนวทางสืบสวนสอบสวนเชื่อว่าน่าจะสั่งลูกน้องก่อเหตุอีกหลายครั้ง อย่างไรก็ตามช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ออกคำสั่งให้ ร.ต.อ.ไอศูรย์ออกจากราชการไว้ก่อน และกำชับให้พนักงานสอบสวนทำคดีอย่างรัดกุมเอาผิดถึงที่สุด
ขณะที่นายนเรศ จึงรุ่งเรืองพงษ์ เจ้าของโรงงานรับซื้อของเก่าที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า รู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงแม้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุและผู้อยู่เบื้องหลังที่เป็นถึงข้าราชการตำรวจ คนร้ายก่อเหตุอุกอาจมาก เพราะตัวโรงงานมีกำแพงล้อมรอบขอบชิด แต่คนร้ายใช้วิธีทุบกำแพงเข้าไปก่อเหตุลักรถบดสั่นสะเทือนยี่ห้อเจซีบีมูลค่า 3.5 ล้าน หม้อแปลงไฟฟ้า 3 เฟส ขนาด 250 กิโลโวลต์ รวมมูลค่าการติดตั้ง 8 แสนบาท เพลารถบรรทุก10 ล้อ และเหล็กหนาอีกหลายตัน รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 7 ล้านบาท ที่เจ็บช้ำก็คือคนร้ายนำไปชำแหละแยกชิ้นส่วนขายไม่เหลือซาก อยากวิงวอนตำรวจให้ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องให้หมด รวมถึงคนรับซื้อของจากกลุ่มโจรด้วย ผู้รับซื้อควรตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินที่ถูกนำไปขาย ไม่ใช่รับซื้ออย่างเดียว
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ