![จับแล้ว “ส.ต.อ.” ตบทรัพย์หญิงวัย 70 สูญเงิน 250,000 บาท จับแล้ว “ส.ต.อ.” ตบทรัพย์หญิงวัย 70 สูญเงิน 250,000 บาท](https://static.thairath.co.th/media/dFQROr7oWzulq5Fa6rHCJgi3AnFj7yUntnNAkuzrZycALujjjtu2ifGOgooW6KxUlXa.jpg)
รวบ “ส.ต.อ.” สภ.แสนสุข ตบทรัพย์หลักแสน หญิงวัย 70 ปี อ้างช่วยเอาเงินคืน คดีฉ้อโกงซื้อของออนไลน์ จเรตำรวจแห่งชาติ – ผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดสอบปากคำ ให้ออกจากราชการ ส่งฝากขัง ค้านประกัน
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 6 ธันวาคม 2567 ที่ สภ.แสนสุข ตำรวจ ภ.จว.ชลบุรี คุมตัว ส.ต.อ.วิชาญ แพ่งทอง รอง ผบ.หมู่ (ป) สภ.แสนสุข ในข้อหาทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังกล่าวนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่ 3 ตาม ม.341 และผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตาม ม.157 ประมวลกฎหมายอาญา หลังก่อเหตุตบทรัพย์ผู้เสียหาย เป็นหญิงวัย 70 ปี จากคดีฉ้อโกงซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นเงินกว่า 250,000 บาท
ต่อมา พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาร่วมสอบปากคำด้วยตัวเองพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี โดยหลังสอบปากคำ ได้คุมตัวไปขอฝากขังต่อศาลจังหวัดชลบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะเดียวกัน ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นแล้ว พบการกระทำผิดจริง นิ้วไหนร้ายต้องตัดทิ้ง ตำรวจทำดีเราชื่นชม แต่ทำไม่ดีต้องลงโทษอย่างเด็ดขาด กรณีนี้สั่งการกำชับต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วเหตุ ทันทีที่ทราบเรื่อง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สั่งการให้ สภ.แสนสุข ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริง ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา และดำเนินการทางคดีและทางวินัยมาโดยตลอด โดย พ.ต.อ.ปัญจนนท์ วิจิตรโท ผกก.สภ.แสนสุข ได้ทำรายงานชี้แจง พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ได้เชิญผู้เสียหายมาพบและพูดคุย ซึ่งผู้เสียหายแจ้งความประสงค์ว่า ขอให้ทาง ส.ต.อ. หาเงินมาเพื่อคืนให้ครบถ้วน 250,000 บาท ก่อนดำเนินคดี เพราะเกรงว่าหากถูกดำเนินคดีทันที จะไม่ได้รับเงินคืน พร้อมนัดหมายกำหนดเวลานัดรับเงินไว้แล้ว แต่ต่อมา ส.ต.อ.นายดังกล่าว หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ได้มารายงานตัวในการปฏิบัติหน้าที่ ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับเงินคืนตามที่นัดหมายไว้ ภ.จว.ชลบุรี จึงได้สั่งการให้ สภ.แสนสุข เร่งรัดออกหมายจับ ส.ต.อ.และติดตามจับกุมตัวมาเพื่อดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04avdpHMXUptt4QW4P7K4YrDOQJu1igY.jpg)
โดยพฤติการณ์ของ ส.ต.อ.นายนี้ เป็นสิ่งที่น่าละอาย ซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจน โดยเหตุเกิดจากหญิง อายุ 70 ปีเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข เรื่องถูกฉ้อโกงออนไลน์ มูลค่าความเสียหายกว่า 2,300,000 บาท โดยได้พบกับ ส.ต.อ.นายนี้ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เสมียนเวรประจำวันรับแจ้งความ ส.ต.อ.ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหาย และบุตรชาย อ้างว่ามีเพื่อนอยู่ บช.สอท. รับผิดชอบคดีอาชญากรรมออนไลน์ ต้องการจะช่วยเหลือโดยวิธีการเอาเกลือจิ้มเกลือ โดยอ้างว่า เคยช่วยนักศึกษาคนหนึ่งแล้วได้เงินคืน พร้อมยืนยันว่าเป็นวิธีที่ถูกกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้เสียหายต้องโอนเงินไปสำรองเงินในบัญชีไว้ เพื่อจะดึงงบสอบสวนออกมาไว้ก่อน และยังอ้างว่าเพื่อนเป็นพนักงานหลังบ้านของธนาคารแห่งหนึ่งอีกด้วย ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อ วันที่ 10 ตุลาคม 2567 จึงโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ ส.ต.อ. นายดังกล่าวจำนวน 150,000 บาท ต่อมา ส.ต.อ. ออกอุบายว่า ต้องการเงินสำรองอีก 100,000 บาท ผู้เสียหายจึงโอนเงินเข้าบัญชีเดิมอีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 รวม 2 ครั้ง 250,000 บาท ต่อมาหญิงวัย 70 ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินคืน จึงได้สอบถามและทวงถามไปยัง ส.ต.อ. ก็ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับ ส.ต.อ. ซึ่งจากข้อมูลความผิดชัดเจน ต้องดำเนินคดีทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด พร้อมสืบสวนสอบสวนว่ามีผู้อื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น
ในส่วนคดีที่ผู้เสียหายถูกฉ้อโกงกำชับพนักงานสอบสวนเร่งรัดสอบสวนส่งประเด็นไปยังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และขอประชาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนหากได้รับความไม่เป็นธรรม หรือมีข้อสงสัยการปฏิบัติงานของตำรวจให้ติดต่อสอบถาม แจ้งเหตุมาที่ ผกก.ทุกสถานี ผบก.ภ.จว. หรือแจ้งมาที่ตำรวจภูธรภาค 2 ทางโทรศัพท์ หรือโซเชียลมีเดีย
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ