รวบสองผัวเมียตุ๋นเหยื่อสายบุญเปิดเพจขอบริจาคช่วยบูรณะซ่อมแซมวิหารหลวงลายคำ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย หลังไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง ใช้ชื่อ “ครูบาอริยชาติ” สร้างความน่าเชื่อถือ ชาวบ้านหลงเชื่อโอนเงินให้ต่อเนื่อง และยังเปิดรับบริจาคช่วย ด.ช.อายุ 3 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งและพระอาพาธอยู่ในโรงพยาบาล มีเงินหมุนเวียนตั้งแต่หลักหมื่นถึงแสนบาท
ตำรวจจับกุมสองผัวเมียหลอกชาวบ้านร่วมทำบุญรายนี้ เปิดเผยช่วงสายเมื่อวันที่ 3 พ.ย. พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 พ.ต.ท.ปุรเชษฐ์ รัตนวิจิตร รอง ผกก.4 บก.สอท.4 นำกำลังจับกุม น.ส.พัณณิตา เหรัญญิก อายุ 21 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ และนายนันทภพ ทับทอง อายุ 25 ปี ชาว จ.พิจิตร สองผัวเมียผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ 891-892/2567 ลงวันที่ 30 ต.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและทุจริตหรือหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
คดีนี้สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน กก.4 บก.สอท.4 รับแจ้งจากคณะกรรมการวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ว่า มิจฉาชีพแอบอ้างชักชวนให้ร่วมบริจาคเงินเพื่อซ่อมแซมบูรณะวิหารหลวงลายคำ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จากเหตุเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหลังมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 มิ.ย.67 มิจฉาชีพโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กปลอมชื่อบัญชี “ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัตถุมงคล วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย” ให้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนบูรณะซ่อมแซมวิหารหลวงลายคํา แอบอ้างใช้ชื่อบัญชีและแอบอ้างเป็นคณะกรรมการของทางวัดขอเปิดรับบริจาค มีผู้ที่มีจิตศรัทธาหลงเชื่อเป็นจำนวนมากโอนเงินร่วมบริจาคสมทบทุน
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบทราบว่า บัญชีปลายทางระบุชื่อ น.ส.พัณณิตา เหรัญญิก ไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางวัดแต่อย่างใด มียอดเงินเข้ามาในบัญชีกว่า 6 หมื่นบาท พบความเคลื่อนไหวว่า ผู้ก่อเหตุเดินไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มตามจุดต่างๆในพื้นที่ จ.พิจิตร และ จ.นครสวรรค์ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ ติดตามจับกุมทั้ง 2 คนได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุจริงนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หากมีผู้เสียหายรายใดที่หลงเชื่อโอนเงินเข้ามาในบัญชีรู้ตัวว่าถูกหลอก จะรีบปิดเพจหนี และจะเปิดเพจใหม่ทำซ้ำๆแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
แนวทางสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาเปิดบัญชีเฟซบุ๊กโพสต์ประกาศรับบริจาคชื่อ “กลุ่มข่าวคนโคราชบ้านเอ็ง” โพสต์ภาพรับบริจาคช่วยเหลือ ด.ช.วัย 3 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็ง และขอรับบริจาคช่วยเหลือพระที่นอนอาพาธในโรงพยาบาล ใช้บัญชีธนาคารของ น.ส.พัณณิตารับบริจาคเช่นเดียวกัน ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมักอาศัยช่วงจังหวะที่เกิดเหตุการณ์สำคัญตามสถานที่ที่คนให้ความสนใจต้องการเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งนี้ พบยอดเงินหมุนเวียนที่โอนเข้ามาในบัญชีจากการสร้างเพจปลอม แต่ละครั้งตั้งแต่หลักหมื่นจนไปถึงหลักแสนบาท ภายหลังตำรวจชุดจับกุมสอบปากคำเสร็จสิ้นนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเดินทางไปยังวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย เพื่อขอขมากรรมกับครูบาอริยชาติ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ