เรื่องเสื้อของชายแสนสุข ยารักษาโรคพระราชา ในหนังสือเรื่องเล็กๆ ความหมายใหญ่ๆ (สุริยเทพ ไชยมงคล สำนักพิมพ์นานมี พ.ศ.2553) ผมเล่าไปหลายครั้ง
แต่อีกเรื่อง “ความสุขที่หายไป” ผมแค่อ่านผ่านๆตา
อ่านอีกครั้งวันนี้ อ๊ะ! ของเขาก็ดีนี่นา! ในบ้านเมืองที่ที่ความสุขหายากนักหนา…มา มาลองหากันดู
นานมาแล้ว มีชายร่ำรวยคนหนึ่ง มีชีวิตที่แสนสุขแสนสบาย แต่บางเวลาเขาก็มักจะกังวล ความสุขที่เขาเคยมีจะหลุดลอยหายไป
วันนั้น…เขาเอะใจเอี้ยวตัวหันไปดู ความสุขของเขายังอยู่ดีหรือไม่ ทันใดนั้นเขาก็มองไม่เห็นความสุขอีกแล้ว
ชายร่ำรวยร้อนใจมาก ทั้งเอี้ยวตัว ทั้งก้ม ทั้งเงย เสาะหาความสุขไปทุกที่ ภูเขา แม่น้ำ ท้องนา เขาติดตามไปทั่ว ไม่น่าเชื่อแม้แต่เงาของความสุขก็ไม่มีวี่แวว
ชายร่ำรวยลุยตามความสุขจนหมดแรง สิ้นหวัง นอนแผ่หลา เขาจึงเปลี่ยนท่าเป็นลุกขึ้นนั่ง
“ไม่หาแล้ว ช่างมันเถอะ” ที่แท้เขากำลังพูดกับตัวเอง
“ไม่เช่นนั้นชีวิตฉันก็คงแต่จะต้องก้มๆเงยๆอย่างนี้อยู่ร่ำไป”
แต่พอเขาเงยหน้าขึ้น อ้าว! เจ้าความสุขหน้าเก่าก็กลับมาหาเขาอีกครั้ง ชนิดตั้งตัวไม่ทัน
“เจ้าความสุขนี่ก็แปลกเสียจริงๆ” เขาตัดพ้อ
“ยิ่งตามหาเจ้าก็ยิ่งห่างหาย แต่พออยู่นิ่งๆเจ้าก็มาหมอบอยู่ข้างๆข้า”
จบเรื่องเล็กๆมีคำอธิบายความหมายใหญ่ๆ…
หลายๆครั้งความสุขและความทุกข์อยู่ห่างกันแค่เอื้อมสิ่งที่ทำให้ชายผู้ร่ำรวยกลับมีความสุขได้ นั่นเพราะเขาเข้าใจแล้ว ความสุขคือความสงบ
ความสุขในชีวิตใคร ใครคนนั้น เริ่มต้นและสิ้นสุดลงในตัวใครคนนั้น
คนโดยทั่วไปมักทุกข์ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายเรื่องระบุว่าความกดดันในตัวเรามาจากเรื่องจุกจิกเล็กๆน้อยๆ ฟังดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้
แต่ขอให้รู้ไว้ เรื่องจุกจิกเล็กน้อย คือศัตรูตัวร้าย ทำให้อารมณ์เสียจนนำไปสู่ความกลัดกลุ้มอยู่เสมอ
ความวิตกกังวลที่มักทำให้ต้องทุกข์ทน เหมือนเส้นด้ายยุ่งๆอยากจะตัดก็ตัดไม่ขาด จะสะสางก็ยิ่งพันกันยุ่งเหยิง สถานการณ์เช่นนั้น การเปิดใจยอมรับมันเป็นหนทางที่ดีกว่า
ดีกว่าการเผชิญหน้ากับมัน
เมื่อคนเราอยู่ในความมืด ก็ย่อมมองไม่เห็นแสงอาทิตย์ที่ฉายแสงอยู่ที่ด้านหลัง แต่ถ้ามีความมั่นใจเดินต่อไปอย่างสงบข้างหน้า เวลาจะช่วยให้ก้าวผ่านช่วงเวลาลำเค็ญของชีวิตไปจนได้
ไม่ต้องหวาดหวั่นเรื่องของวันวาน แต่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับวันนี้ ยืดอกก้าวไปข้างหน้า แค่กล้าเดินไปหาอนาคต เพียงเท่านี้ เราก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความสุขที่เพิ่มขึ้น
จะมีความสุขกับชีวิตได้หรือไม่ อยู่ที่มุมมองของเราทั้งสิ้น
เมื่อเงยหน้าแล้วคิดได้ ก็ควรตระหนักเอาไว้… “ดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อท้นนั้น มักมองความสดใสของแสงตะวันได้ไม่ชัดเจน”.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ