ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานสางคดีตุ๋นเงินครูวัยเกษียณและตัวแทนบุคลากรทางการศึกษา 6 จังหวัด หลอกลงทุนเหรียญดิจิทัล “TRX” ให้ค่าตอบแทนสูงเหยื่อหลงกลร่วมลงทุนสูญเงินไปกว่า 100 ล้านบาท ตำรวจพื้นที่รับเรื่องรวบรวมผู้เสียหาย หากยอดความ เสียหายสูงถึง 50 ล้านบาท เตรียมส่งไม้ต่อให้ บช.ก.ดำเนินการ ขณะที่ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุทัยธานี ถูกพาดพิงชวนร่วมลงทุนแจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี อ้างตกเป็นผู้เสียหายเหมือนกันเข้าแจ้งความแล้ว

จากกรณีที่อดีตข้าราชการบำนาญและตัวแทนบุคลากรทางการศึกษา 6 จังหวัดประกอบด้วย อุทัยธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก ระยอง ขอนแก่น และสระบุรี เข้าแจ้งความและร้องสื่อถูกหลอกลงทุนเหรียญดิจิทัล “TRX” ให้ค่าตอบแทนสูง เมื่อหลงกลลงทุนสุดท้ายถอนเงินไม่ได้ มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 2 ธ.ค. พล.ต.ต.ณรงค์เดชศ์ ศักดิ์สมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.อุทัยธานี กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุทัยธานี ถูกหลอกให้ลงทุนไปซื้อเงินดิจิทัล เมื่อลงทุนไปแล้วไม่ได้เงินตามที่ถูกกล่าวหานั้น สั่งการให้ ผกก.ดำเนินการเร่งรัดสำนวนในเรื่องการสอบสวน แล้วจะต้องส่งต่อคดีให้กับทางตำรวจไซเบอร์หรือ บช.ก.เป็นผู้ดำเนินการรับสำนวนสืบสวนต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.สาทิตย์ ศรีหมื่นไวย ผกก.สภ.เมืองอุทัยธานี กล่าวว่า นายรัตนชัย ศรีโกมล อดีตผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง จ.อุทัยธานี ปัจจุบันเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุทัยธานี ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ชักชวนครูไปลงทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งรัดสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหาย อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานและหลักฐาน

พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. เปิดเผยเรื่องครูเกษียณถูกหลอกลงทุนว่า เรื่องดังกล่าวมีผู้มาร้อง 10 ราย เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหาย 9 รายที่แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุทัยธานี แต่เนื่องจากยอดความเสียหายไม่ถึงหลักเกณฑ์รับคดีของ บก.ปอศ. เพราะยอดความเสียหายต้องสูงถึง 50 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้รับแจ้งจากทนายความกลุ่มผู้เสียหายว่า จะรวบรวมผู้เสียหายอีกกลุ่มมาแจ้งความเพิ่มอีก ถ้าเป็นเช่นนั้นตำรวจ ปอศ.พร้อมจะรับทำคดี นอกจากนี้ยังแนะนำทนายความถึงในส่วนผู้เสียหายที่แจ้งความไว้แล้วตามสถานีตำรวจต่างๆที่ประสงค์จะรวบรวมคดีทั้งหมดมาให้ตำรวจ ปอศ.ทำนั้น สามารถทำได้ด้วยการรวบรวมคดีที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ทั้งหมดตามท้องที่ต่างๆ แล้วยื่นเรื่องเสนอให้ ตร.สั่งโอนคดีทั้งหมดมารวมไว้ที่ ตำรวจ บก.ปอศ.จึงจะรับไว้ได้

ขณะที่ น.ส.สุดฤทัย แจ่มแสง ครูบำนาญ เคยสังกัด สพป.อุทัยธานี 1 ในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายไปร้องทุกข์ที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ จากนั้นแจ้งความที่ บก.ป. ส่วนใหญ่มูลค่าความเสียหาย 1-3 ล้านบาท นอกจากนี้มีกระบวนการสร้างภาพปล่อยคลิปโอ้อวด เช่น คลิปที่ “คุณชาย 789” ทำนั้น หลายครั้งหลายเรื่องเป็นเรื่องจริง แต่มีบางเรื่องที่มักจะนำข้อมูลมาสร้างเพื่อให้มันเกินจริง เช่น การที่มีผู้ลงทุนไปปรึกษาวางแผนในการที่จะลงทุนด้วย 30 ล้านบาท สำหรับแชร์วงนี้คนเริ่มต้นมีแต่เศรษฐีเป็นผู้เริ่มก่อตั้งมาหลอกผู้เสียหายที่เป็นคนจนรากหญ้า แต่สำหรับวงนี้มีเพียงคน 3 คนจดทะเบียนตั้งบริษัทมูลค่าเพียง 1 ล้านบาท แต่สามารถหลอกผู้เสียหายทั่วประเทศมากกว่า 1,000 ล้านบาท ผู้เสียหายส่วนใหญ่จะสูญเงิน 5 ล้านบาทมีหลากหลายอาชีพ นอกจากนี้ยังมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับ รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ผอ.โรงเรียนต่างๆทั้งมัธยมและประถมที่ยังไม่ปลดเกษียณ เกรงว่าจะได้รับผลกระทบกับหน้าที่งาน ข้อมูลที่ได้ทราบล่าสุดคือระดับซีอีโอของบริษัทยังกินหรูอยู่สบาย บางคนไปขับรถของนักการเมือง บางคนเปิดผับแถว จ.ลพบุรี ส่วนพวกตนได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับการเหลียวแล

ด้านนายรัตนชัย ศรีโกมล อดีตผู้บริหารโรงเรียนในเขตเมืองอุทัยธานี และประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุทัยธานี ชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ตนในฐานะเป็นผู้ลงทุนคนหนึ่ง อยากชี้แจงเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานกว่า 3 ปีแล้ว ตนติดตามจากข่าว ผู้ร้องต่างเป็นแม่ข่ายใหญ่ที่ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุน การแนะนำเริ่มต้นก็ไม่ใช่ตน คนกลุ่มนี้อยู่สายงานอื่นมองว่า ตนเป็นซีอีโอของบริษัทนี้ ข้อเท็จจริงการดำเนินการระยะหนึ่ง ตนเป็นผู้เสียหายแจ้งความกันไว้ที่ สภ.เมืองอุทัยธานี ตำรวจเรียกไปสอบสวนพร้อมกับมอบหลักฐาน ตำรวจมองว่าเรื่องนี้ไม่เข้าข่ายจึงหยุดนิ่ง น่าจะมีคนแนะกลุ่มของผู้ร้องให้ร้องสื่อมวลชนจี้ให้ตำรวจทำงาน ขอยืนยันกับประชาชนและสมาชิกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับงานในหน้าที่ มีความรู้สึกว่าเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตนกำลังหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการสหกรณ์ เกิดขึ้น 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกมีข่าวทำนองนี้ออกมาในช่วงที่หาเสียงแต่ไม่ลงสื่อ และครั้งนี้น่าจะมีคนแนะนำให้เอาเรื่องนี้ออก ตนขอชี้แจงให้ประชาชนและสมาชิกสหกรณ์เข้าใจว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการลงทุนเป็นเรื่องส่วนตัว อย่าเอาองค์กรเข้ามาเกี่ยวข้อง