2 คนร้ายหนีตำรวจ ยิงปะทะสนั่นริมฝั่งโขง อีกรายถูกจับขณะขึ้นเรือหลบหนี ส่วนอีกรายจับสามล้อเป็นตัวประกัน ดึงระเบิดขู่เจ้าหน้าที่ แต่สะดุดล้มระเบิดตกใส่ตัวเองเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 ร.ต.อ.ไพฑูรย์ ชั้นเสมา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันบนถนนสายท่าบ่อ-บ้านผือ บริเวณสี่แยกบ้านเทวี ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุสีขาว สี่ประตู ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมทางสภาพด้านหน้าเสียหาย ส่วนอีกฝั่งของถนนพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยารีส สีขาว ทะเบียนอุดรธานี สภาพด้านหน้าเสียหาย โดยมี น.ส.มัณรัตน์ อายุ 27 ปี เป็นชาว ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เจ้าของรถพร้อมญาติรอพบเจ้าหน้าที่ และได้รับบาดเจ็บแน่นหน้าอก
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่ารถยนต์กระบะสี่ประตู วิ่งมาจากทาง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มุ่งหน้า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ส่วนรถยนต์เก๋งโตโยต้ายารีส กำลังจะเลี้ยวรถเข้าเส้นทางกลับบ้านในพื้นที่ ต.บ้านว่าน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุรถยนต์กระบะได้ขับแซงรถบรรทุกที่วิ่งอยู่ด้านหน้าทำให้ไม่เห็นรถเก๋งที่กำลังจะเลี้ยว ทำให้ชนประสานงาอย่างจัง ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้รับแจ้งว่าคนขับรถกระบะและผู้โดยสารรวม 2 คน ได้หลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอท่าบ่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการวิทยุสกัดจับ
ทั้งนี้ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ที่ทั้ง 2 คนหลบหนี และจากคลิปที่พลเมืองดีถ่ายไว้ได้ในจุดเกิดเหตุ พบว่าทั้งสองคนได้โบกรถยนต์ชาวลาวหลบหนี มาลงรถที่ศาลาพักผู้โดยสารเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ก่อนที่จะจ้างรถสามล้อเครื่องให้ไปส่งที่ริมแม่น้ำโขงบ้านโพนสา อ.ท่าบ่อ เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด
กระทั่งเวลาประมาณ 14.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้ติดตามคนร้ายทั้ง 2 คน มายังถนนพนังชลประทานริมแม่น้ำโขง เส้นท่าบ่อ-หนองคาย พื้นที่หมู่ 2 บ้านโพนสา ต.โพนสา เมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่จึงแยกกันหลบหนี โดยคนร้ายอีกคนทราบชื่อต่อมาภายหลังถูกจับกุมคือ ท้าวคำสิงห์ อายุ 38 ปี สัญชาติลาว ได้วิ่งลงไปที่ท่าน้ำวัดกุมภประดิษฐ์ หมู่ 2 ต.โพนสา ขโมยเรือของชาวบ้านหลบหนี แต่ไม่สามารถสตาร์ทเรือติด ยังใช้อาวุธปืนยิงเบิกทางเพื่อหลบหนีใส่เจ้าหน้าที่มา 1 นัด
จากนั้นคนร้ายทำได้เพียงไหลเรือออกจากฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงลงเรือติดตามพร้อมใช้อาวุธปืนยิงขู่เพื่อให้ยอมจำนน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธพร้อมต่อสู้ จึงได้ประสานสถานีเรือศรีเชียงใหม่ นรข.เขตหนองคาย นำเรือไล่ติดตามจับกุมไว้ได้ในพื้นที่หมู่ 1 ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนอาวุธปืนและของกลางอื่นๆ คนร้ายโยนทิ้งลงแม่น้ำโขง
ส่วนคนร้ายอีก 1 คน ได้วิ่งหลบหนีไปที่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 2 ต.โพนสา ที่เปิดเป็นร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และได้จับตัวคนขับสามล้อเป็นตัวประกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าใกล้ พร้อมทั้งควักระเบิดออกมาขู่ เจ้าหน้าที่ได้แต่ปิดล้อมไว้โดยรอบ ต่อมาเมื่อเห็นว่าจวนตัวคนร้ายได้ดึงสลักระเบิดออกกะจะเขวี้ยงใส่เจ้าหน้าที่ แต่คนร้ายเกิดสะดุดล้ม แล้วคนขับสามล้อสะบัดหลุดวิ่งหลบหนีออกมาอย่างฉิวเฉียด
ส่วนคนร้ายถูกระเบิดใส่ตัวเองจนเสียชีวิตทันที สะเก็ดระเบิดยังไปถูกชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ที่บริเวณหัวไหล่ และแรงอัดของระเบิดยังทำให้ตำรวจจราจรได้รับบาดเจ็บมีอาการแน่นบริเวณหน้าอก เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลจนปลอดภัยทั้งชาวบ้านและตำรวจ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ยังพบว่าคนร้ายได้ทิ้งกระเป๋าไว้ข้างวัดกุมภประดิษฐ์ 1 ใบ ตรวจสอบพบมีระเบิดลูกเกลี้ยง (TYPE 82-2 ทำในจีน) ซุกซ่อนในกระเป๋า เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้มาทำการเก็บกู้ไว้ ส่วนคนที่เสียชีวิตยังไม่แน่ชัดว่าเป็นคนไทยหรือคนลาว ต้องรอตรวจสอบ ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นคาดว่าเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนต่อไป.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ