สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เดินหน้าสนับสนุนงบประมาณ และองค์ความรู้ให้เกษตรกรสมาชิกกว่า 5 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาศักยภาพสู่การเป็นเกษตรกรต้นแบบ หลังให้งบสนับสนุนกว่า 1.2 หมื่นโครงการ
วันที่ 29 พ.ย. 67 นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) กล่าวถึงความสำเร็จในภารกิจด้านการฟื้นฟู และสนับสนุนอาชีพเกษตรกรในช่วงที่ผ่านมาว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรที่เป็นสมาชิก กฟก.อยู่ จำนวน 5,288,306 ราย ขึ้นทะเบียนองค์กร 56,725 องค์กร มีการอนุมัติโครงการต่าง ๆ ที่เกษตรกรและองค์กรเกษตรกร เสนอมาขอรับงบประมาณสนับสนุน จำนวน 12,375 โครงการ แบ่งเป็นประเภทอุดหนุน 9,561 โครงการ เป็นเงิน 407.9 ล้านบาท และประเภทกู้ยืม 2,814 โครงการ เป็นเงิน 1,120 ล้านบาท รวมทั้งหมด 1,527.9 ล้านบาท
โดยภายหลังที่ กฟก.เข้าสนับสนุนด้านงบประมาณ มีเกษตรกรจำนวนมาก ที่เป็นต้นแบบและประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพต่าง ๆ ทั้งการปลูกพืช ประมง และเลี้ยงสัตว์ เช่น กลุ่มปลูกผักปลอดสารเคมีของกลุ่มเกษตรกรยั่งยืนดอนกระเบื้อง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ที่ได้ใบรับรองแหล่งผลิต GAP ประเภทผัก มีการส่งจำหน่ายภายในชุมชนและบริเวณใกล้เคียง ทำให้สมาชิกมีรายได้ตลอดทั้งปี สับปะรดอินทรีย์อบแห้ง ออร์แกนิค ตราน้ำหนึ่ง ซึ่งเป็นของฝากจากตำบลบ้านเสด็จ จังหวัดลำปาง โดยมีการผลิตทั้งสับปะรดเชื่อม สับปะรดดอง และสับปะรดอบแห้ง ทำให้เกษตรกรมีผลผลิตที่หลากหลายและมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเกษตรกรต้นแบบด้านปศุสัตว์ เช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงโคบ้านไร่ จังหวัดน่าน ที่ผลิตโคเนื้อคุณภาพระดับพรีเมียม สามารถผลิตได้อย่างเพียงพอและมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทำให้สินค้ามีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของตลาดมาอย่างต่อเนื่อง
เลขาธิการ กฟก. กล่าวอีกว่า ทั้งหมดคือความสำเร็จของกลุ่มเกษตรกร ที่กองทุนฟื้นฟูฯ มีส่วนในการสนับสนุนงบประมาณ และองค์ความรู้ และเชื่อว่า มีเกษตรกรเก่ง ๆ อีกจำนวนมาก ที่สามารถเป็นเกษตรกรต้นแบบได้ โดยคณะผู้บริหาร กฟก.และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พร้อมเดินหน้าสนับสนุนเกษตรกรในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านงบประมาณ และองค์ความรู้
ดังนั้นหากเกษตรกรที่ต้องการเป็นสมาชิก หรือ ขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรและขึ้นทะเบียนหนี้ เพื่อให้ กฟก.เข้าไปช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดทั่วประเทศ หรือ ติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ที่ โทรศัพท์ 02-158 0342 ในวันและเวลาราชการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.
แหล่งข่าว: ไทยรัฐ